เนื้อหาโดย Dodeden.com
ปัจจุบัน กระแสการชื่นชอบอาหารฟังก์ชั่นกำลังได้รับควานนิยม เนื่องจากเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยเสริมสุขภาพ และมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยสารกลุ่มโปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์ ก็ถือว่าเป็นสารอาหารฟังก์ชั่นที่สำคัญชนิดหนึ่ง เราจึงจะชวนคุณไปลองศึกษากันดูว่า เจ้าสารเปปไทด์ที่ว่านี้ มีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านใดบ้าง
ฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ที่ทําให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง
มีการศึกษาในต่างประเทศพบว่า เปปไทด์จากเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว และเนื้อไก่ เป็นแหล่งที่ดีในการยับยังเอนไซม์ที่ทําหน้าที่ควบคุมระบบความดันโลหิตของร่างกาย ซึ่งจะส่งผลต่อความเข้มข้นของโซเดียมที่ทําให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น โดยนักวิจัยพบว่า เนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการถนอมอาหารรูปแบบต่างๆ เช่น การรมควัน การหมักเกลือแล้วตากแห้ง ยิ่งทําให้ได้เปปไทด์ที่มีคุณสมบัติลดความดันโลหิตดีขึ้น เมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านกระบวนการดังกล่าว
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
มีการศึกษาพบว่าเปปไทด์จากเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อปลา และไส้กรอกที่ผ่านกระบวนการหมักแบบธรรมชาติ หรือตากแห้งนั้น มีคุณสมบัติในการป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของไขมันจากสารอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวการทําให้เกิดโรคชราและโรคที่เกิดจากภาวะการเสื่อมสภาพของเซลล์ได้
ฤทธิ์ต้านเชื้อจุลชีพ
เปปไทด์ที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ที่ก่อโรคได้นั้น ส่วนใหญ่ได้จากเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์ของสัตว์ที่ผ่านการหมักแล้ว เช่น แหนม ปาร์มาแฮม ปลาร้า ปลาส้ม รวมทั้งผลิตภัณฑ์ประเภทนมเปรี้ยวและโยเกิร์ต ซึ่งเปปไทด์กลุ่มนี้จะมีกรดอะมิโนที่มีคุณสมบัติทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ของจุลินทรีย์ได้
ฤทธิ์เพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
มีรายงานวิจัยพบว่าเปปไทด์นั้นสามารถช่วยกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวให้ทํางานได้ดียิ่งขึ้น โดยมีการทดลองในเซลล์พบว่าเปปไทด์จากเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ช่วยส่งเสริมการทํางานของเซลล์เม็ดเลือดขาวให้กําจัดเซลล์แปลกปลอม หรือเซลล์ที่กลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็ง
ถึงแม้เปปไทด์จะมีประโยชน์ แต่ก็มีหน้าที่เป็นสารอาหารฟังก์ชั่น ไม่ใช่สารอาหารหลัก ดังนั้นการเลือกทานอาหารเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จําเป็นอย่างครบถ้วน จึงควรเลือกทานอาหารให้หลากหลาย พักผ่อนให้เพียงพอ และหมั่นออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ คุณก็จะมีสุขภาพดีได้โดยไม่ต้องหาซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพราคาแพง
