เป็นประเด็นฉาวอยู่นาน… สำหรับกรณีด่ากราดผ่านโปรแกรมแชทชื่อดังของพระนางร่วมช่อง “หมาก ปริญ” และ “มิ้นต์ ชาลิดา” จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลอยู่พักใหญ่ และถึงแม้คู่กรณีอย่าง หนุ่มหมาก จะออกมาตั้งโต๊ะชี้แจงอย่างเป็นทางการผ่านสื่อพร้อมทั้งกล่าวคำขอโทษไปเมื่อสัปดาห์ก่อนแล้วนั้น แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มสงสัยว่านักแสดงสาวและคุณแม่จะยอมให้อภัยกับการกระทำดังกล่าวหรือเปล่า!? ซึ่งล่าสุดในงาน “กินปู ดูทะเลกรุงเทพ ครั้งที่ 12” สาวมิ้นต์ ชาลิดา ก็ได้ออกมาเปิดใจผ่านสื่อถึงเหตุการณ์ดังกล่าวให้ฟังแล้วว่า…
“ทุกอย่างจบลงด้วยดีแล้วค่ะ เพราะทาง พี่สมรักษ์ ได้เรียกเราทั้งสองฝ่ายเข้าไปปรับความเข้าใจกัน ซึ่งส่วนใหญ่ที่คุยก็จะเป็นเรื่องที่ทางฝั่ง พี่หมาก เขาได้เข้าใจผิดและเราก็เคลียร์ปัญหาตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว แต่รายละเอียดอื่น ๆ มิ้นต์ขออนุญาติไม่พูดถึงทั้งหมดแล้วกันเนอะ”
“โอเคขึ้นเยอะเลยค่ะ”
“เรายังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม ยังสามารถกลับมาเป็นเพื่อนกันได้อีกครั้ง เพราะหนูไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว”
“นี่แหละค่ะ เพราะที่ผ่านมาต่างฝ่ายต่างก็ออกมาพูดหมดแล้วเหลือแค่หนูเป็นคนสุดท้าย (ยิ้ม)”
“แม่มิ้นต์ไม่ติดใจอะไรเลย ท่านเข้าใจทุกอย่างเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ พอเด็กออกมาขอโทษท่านก็จบไม่ได้คิดติดใจอะไรแล้ว”
“ยินดีอยู่แล้วได้ทุกจ็อบเลยค่ะ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มี”
“หนูไม่รู้จริง ๆ ค่ะ แต่หนูคิดว่าคงไม่ใช่เพราะหนูก็ยังตามฟอลโล่กดไลค์เขาอยู่เหมือนเดิม อีกอย่างคือมิ้นต์ไม่อยากให้มองว่าเราทะเลาะกันด้วย เพราะเรื่องนี้มันมีแค่หนูกับพี่หมากจริง ๆ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคิมเลย”
“ยังเลยค่ะ เพราะตอนนี้ต่างคนก็ต่างทำงานมันเลยไม่มีเวลามานัดคุยกัน”
“ยังเลยค่ะ แต่ว่าเร็ว ๆ นี้ ซึ่งตัวมิ้นต์เองก็ต้องขอโทษเพื่อนทุกคนด้วยที่ทำให้ลำบากใจ เพราะมิ้นต์เองก็ไม่ได้อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้ มิ้นต์อยากให้เรากลับมาเหมือนเดิมอีกครั้งค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วมันก็ต้องใช้เวลาช่วยเยียวยาด้วย”
“มิ้นต์ไม่อยากให้เอ่ยถึงลูกค้าเลยค่ะ เพราะมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด คือของฝั่งพี่หมากเขาก็เป็นสีนึง มิ้นต์ก็เป็นสีนึงค่ะ”
“อย่างที่บอกค่ะ คือเหมือนฝั่งพี่หมากเขาจะเข้าใจผิด และเราเองก็ได้เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว”
“จริง ๆ มิ้นต์กับแม่ไม่ได้รับการติดต่อจากใครเลย ซึ่งมิ้นต์มองว่ามันน่าจะเกิดจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนมากกว่า อีกอย่างแม่มิ้นต์ท่านก็ใช้เบอร์เดิมทั้งสองเบอร์ด้วย ซึ่งเรื่องนี้เราทั้งคู่ก็เคลียร์จบเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน”
“ใช่ค่ะ คือเรื่องนี้มันไม่ได้มีผลดีอะไรกับใครเลย และมิ้นต์เองก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นเลยด้วย”
“ท่านเครียดค่ะ เพราะมันค่อนข้างแรง แต่พอสุดท้ายเราได้ปรับความเข้าใจกันอะไร ๆ มันก็โอเคขึ้น”
“ไม่จริงเลยค่ะ แต่มิ้นต์ยอมรับนะว่ามีอีเว้นท์ติดต่อเข้ามาเยอะ ซึ่งมิ้นต์ก็เลือกที่จะปฏิเสธไป อีกอย่างทางผู้ใหญ่ท่านไม่ต้องการให้เราออกมาพูดด้วย และสำหรับเรตค่าตัวงานนี้ก็คือปกติเหมือนเมื่อก่อนทุกอย่าง”
“มิ้นต์ยอมรับค่ะว่ามันเป็นความผิดพลาดของมิ้นต์เอง และเหตุการณ์นี้มันก็ทำให้มิ้นต์รู้ว่ามิ้นต์ควรไว้ใจใครและไม่ควรไว้ใจค่ะ ซึ่งมิ้นต์ต้องขอโทษเพื่อนทุกคนจริง ๆ”
“คือมิ้นต์ได้ส่งให้พี่ที่ดูแลอ่าน รวมถึงเพื่อนบางกลุ่ม ซึ่งมิ้นต์ไม่เคยหวังเลยว่าจะทำให้รูปหลุด แต่ในเมื่อมันหลุดแล้วมันก็ทำให้มิ้นต์รู้ว่าใครที่เราไว้ใจได้และใครที่เราไว้ใจไม่ได้ค่ะ”
“ก็พอทราบค่ะ แต่มิ้นต์ไม่อยากระบุตัวบุคคลเนื่องจากแค่นี้มันก็กระทบกับคนหลายฝ่ายมากพอแล้ว”
“ใช่ค่ะ มิ้นต์ต้องระวังตัวเองให้เยอะเลย”
“เยอะแยะมากมายเลยค่ะ ชีวิตนี้มิ้นต์ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องออกมาพูดชี้แจงต่อหน้ากล้องและไมค์เยอะขนาดนี้”
“คือจริง ๆ แล้วเรื่องนี้มันก็ขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละคนนะ ซึ่งมิ้นต์อยากขอแค่ว่าให้ทุกคนช่วยเปิดใจให้กับทั้งฝั่งตัวมิ้นเองและฝั่งพี่หมากรวมถึงทุก ๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วยค่ะ”
ขอบคุณที่มา sanook.com