ที่มา: beartai

สมัยนี้เรียกได้ว่าแทบทุกคนนั้นจะต้องมีอินเทอร์เน็ตบนมือถือใช้กันอย่างแน่นอน ซึ่งหลายคนรวมถึงโดดเด่นก็จะสงสัยว่า ทำไมอินเทอร์เน็ตของเราที่เขียนไว้ว่า “อันลิมิตเต็ด” แต่กลับใช้ได้ไม่เท่าไหร่ก็โดนลด Speed ลงมาซะแทบไม่กระดิกล่ะนี่ ? (ที่เขาเรียกกันว่าติด FUP) งานนี้ทางนายห้าง หนุ่ย พงศ์สุข ก็ได้ออกมาอธิบายกันในแบบละเอียดผ่านรายการ “เช้าข่าวชัดโซเชียล” เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ทางช่องไทยรัฐทีวี

ต้องบอกไว้ก่อนว่าการที่ทางผู้ให้บริการค่ายโทรศัพท์ทุกที่จำเป็นจะต้องมีการจำกัดการให้บริการอินเทอร์เน็ตเพราะว่าการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่าน 3G หรือ 4G ที่เราคุ้นเคยกันดีนั้น มีจำนวนจำกัด ซึ่งถ้าผู้ให้บริการได้ปล่อยให้ทุกคนใช้บริการแบบไม่มีการจำกัด Data ก็จะส่งผลให้การใช้งานของทุกๆ คน ณ จุดๆ นั้นติดขัด โดยเฉพาะในตัวเมืองที่มีผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านมือถืออย่างหนาแน่นนั่นเอง

ซึ่งการใช้งานหลัก ๆ มีดังนี้

  • ดูคลิปวิดีโอผ่าน YouTube ประมาณ 5 นาที (ด้วยขนาด 1080p) จะใช้ Data ประมาณ 225 MB (ลดหลั่นไปตาม resolution ที่ปรับ)
  • การเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีภาพเยอะๆ หรือมีการโหลด Data หนัก ๆ ประมาณ 5 หน้า จะใช้ Data ประมาณ 54 MB
  • รับ-ส่ง E-mail พร้อมไฟล์แนบ 5 ฉบับ จะใช้ Data ประมาณ 45 MB (ถ้าไฟล์แนบมีขนาดใหญ่)
  • แชทผ่านโปรแกรมแชทต่าง ๆ (เช่น LINE, Facebook Messenger เป็นต้น) ประมาณ 3 ชั่วโมง จะใช้ Data ประมาณ 45 MB
  • อัพโหลดรูป 5 รูป (ผ่าน Facebook หรือ IG) จะใช้ Data ประมาณ 15 MB (ขึ้นอยู่กับขนาดภาพที่อัพโหลด)
  • โพสต์ข้อความลง Social Media 5 ข้อความ(ไม่รวมรูป) จะใช้ Data ประมาณ 0.15 MB

ดังนั้น เพื่อให้ทุกๆ คนไม่สับสนกับคำว่า “อันลิมิตเต็ด” ที่เราคุ้นเคยกันดี (ว่ามันไม่ Unlimited สมชื่อ) ทาง กสทช. จึงมีมติให้ผู้ให้บริการมือถือ ทำการยกเลิกใช้คำว่า “อันลิมิตเต็ด” บน Package ณ ปัจจุบัน แต่ให้ไปใช้คำอื่นแทน ซึ่ง ณ ปัจจุบันทาง กสทช. ยังไม่ได้แจ้งออกมาอย่างเป็นทางการว่าจะให้ใช้อะไรแทนคำๆ นี้

01

 

ป้ายกำกับ:

เรื่องน่าสนใจ