รวบหนุ่มอ้างตัวเป็นสารวัตรโจ้ เก็บเงินวิน คนละ 3,900 ได้เดือนละแสนสาม อ้างเจ้าของที่มอบสิทธิให้เก็บ ยันไม่ได้ส่งทหารตำรวจ
พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รอง ผบก. ป. ) และพ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม แถลงข่าวจับกุม นายพุฒิเศรษฐ์ สร้อยสุวรรณ หรือ โจ้ และนางสาว นาตยา กลิ่นประทุม(ไม่ยินยอมแถลงข่าว)โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้างเอสพานาด ถนนรัชดาภิเษก
หลังได้รับการร้องเรียนจากวินรถจักรยานยนต์รับจ้างบริเวณดังกล่าว ว่าถูกนายพุฒิเศรษฐ์ เรียกเก็บค่าเช่าวิน ค่าเสื้อ และค่าวิ่งวิน รวมแล้วกว่า 3,90 บาท ต่อเดือนต่อคน ซึ่งวินดังกล่าวมีสมาชิกกว่า 35 คน ซึ่งหากจ่ายล่าช้าจะถูกปรับวันละ 130 บาท และค่าไฟอีก 50 บาท รวมเงินเก็บได้เดือนละ 138,000 บาท
หากไม่จ่ายจะถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ทำให้ผู้เสียหายกว่า 10 ราย เดินทางเข้าร้องเรียนกองปราบปรามเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และนายพุฒิเศรษฐ์ ยังแอบอ้างหรือพยายามทำตัวให้เชื่อว่าตัวเองเป็นสารวัตร ประจำกองปราบปรามด้วย
โดย นายพุฒิเศรษฐ์ กล่าวอ้างว่า ตนประกอบอาชีพขายน้ำอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว และได้รับมอบหน้าที่การดูแลที่บริเวณวินจักรยานยนต์ดังกล่าวจากเจ้าของที่ ซึ่งเป็นที่ดินเอกชนในรูปแบบบริษัท เป็นการมอบอำนาจจากเจ้าของที่ให้ตนเองจัดการและเก็บเงินได้เลยไม่ต้องส่งใคร โดยยืนยันไม่ได้เก็บส่วยส่งทหารหรือตำรวจ
พร้อมเผยอีกเผยว่า ตนเองไม่ไดัอ้างเป็นสารวัตรกองปราบปราม แต่คนในย่านนั้นอาจเข้าใจกันว่าคือตนเองสารวัตรโจ้ เนื่องจากคาดว่าตนเองรู้จักกับตำรวจหลายคน
ส่วนผู้ที่มาร้องเรียนนั้นเจ้าหน้าที่เรื่องดังกล่วนั้นเพิ่งมาขับวินได้เพียง20วันเท่านั้น อาจไม่ทราบว่าที่ดังกล่าวเป็นเอกชนและเอสพลานาดเองก็ต้องเช่าที่บริเวณดังกล่าวด้วย ย้ำไม่มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวด้วยว่า จากการสืบสวนมีข้อมูลว่า นายพุฒิเศรษฐ ได้โพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดียในลักษณะแอบอ้าง ทำให้เข้าใจว่าเป็นตำรวจกองปราบปรามจริง ซึ่งผู้ต้องหามีสิทธิให้การในส่วนของตนเอง ซึ่งตำรวจได้ร้องขอให้นำเอกสารแสดงสิทธิครอบครองที่ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แต่ว่าผู้ต้องหายังไม่นำมาให้
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากนี้ จะสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องรวมถึงเจ้าของพื้นที่เข้าให้การด้วย ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการ ส่งสำนวนต่อศาลให้อัยการพิจารณา และแจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์