เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 17 ธันวาคม พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า รรท.ผบก.น.8 พ.ต.อ.ปพณพัชร์ ตั้งจิตจารุพัชร์ ผกก.สน.บางยี่เรือ พ.ต.ท.สามารถ เนียมสร้อย และ พ.ต.ท.เอกลักษณ์ หมวกผัน สว.สส. นำกำลังจับกุม นายโอภาส เจริญวิทย์ อายุ 23 ปี และ น.ส.ณัฐชานันท์ พิทักษ์ชัยกร อายุ 25 ปี แฟนสาว ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พร้อมสมุดบัญชีเงินฝากหลายเล่ม เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์จำนวนหนึ่ง โดยจับกุม ได้ที่ลานจอดรถชั้น 6 อาคาร ไอดีโอ สาทร เลขที่ 221 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี
พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหาย15ราย เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางยี่เรือ ว่า เข้าไปใช้บริการเสริมความสลายไขมันและทำศัลยกรรมหน้าอก ที่คลินิกวีเมค เลขที่ 367 หมู่ 7 ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี โดยทราบข่าวจากโฆษณาทางเฟซบุ๊ก แต่เมื่อไปใช้บริการแล้วกลับได้รับผลข้างเคียง บางรายถึงขั้นเจ็บป่วย ในขณะที่มีหลายรายหน้าอกเกิดปัญหา เมื่อติดต่อขอให้ทางผู้ให้บริการแก้งาน ก็ถูกเรียกเก็บเงินเพิ่ม พอผู้เสียหายรวมตัวกันเข้าพบก็ปิดคลินิกหนี สร้างความเสียหายรวมกันประมาณ 2 ล้านบาท จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ให้บริการ คือ นายโอภาส และ น.ส.ณัฐชานันท์ ไม่ได้เป็นแพทย์แต่อย่างใด
“จากการขยายผลทราบว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีก 1-2 คน โดยคลินิกดังกล่าวเปิดได้เพราะมีแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมท่านหนึ่งเป็นผู้ขออนุญาต แต่ข้อเท็จจริงของการให้บริการปรากฏว่าเป็นการลงมือของผู้ต้องหาที่ไม่ใช่แพทย์ หนำซ้ำยังมีการอวดอ้างโฆษณาไปตามสื่อโซเชียลมีเดียว่า กระทำโดยแพทย์ จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวน เร่งหาความเชื่อมโยงของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่ามีส่วนร่วมทำผิดด้วยหรือไม่ ก่อนจะแจ้งข้อหาดำเนินการเพิ่มเติมต่อไป” พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ตำรวจกำลังสอบปากคำผู้ต้องหาอยู่นั้นปรากฏว่า มีผู้เสียหายที่ทราบข่าวพากันเดินทางมาที่ สน.บางยี่เรือ เพื่อชี้ตัวจำนวนมาก หลายคนกลั้นอารมณ์ไว้ไม่อยู่เข้าด่าทอผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย อย่างรุนแรง เนื่องจากโกรธแค้นที่ต้องสูญเสียเงินนับแสนบาท จนเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันแยกย้ายและปลอบประโลมให้สงบสติอารมณ์ นอกจากนี้มีผลการตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา ทั้ง 2 ราย มีเงินเหลือหมุนเวียนอยู่เกือบ 2 ล้านบาท ขณะนี้พนักงานสอบสวนจะทำเรื่องอายัดเพื่อนำมาคืนให้ผู้เสียหายต่อไป
รายงานว่า สำหรับแพทย์ที่ใช้ชื่อขออนุญาตเปิดคลินิกให้ผู้ต้องหาดำเนินการทำศัลยกรรมนั้น เป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์ให้สถาบันทางการแพทย์ชั้นนำ และมีดีกรีระดับดอกเตอร์เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลถึงแนวทางความเชื่อมโยงว่าถูกแอบอ้างจากกลุ่มผู้ต้องหาหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
