รอยแผลเป็นต่าง ๆ มักจะสร้างความกังวลใจให้สาว ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าแผลนั้นจะมีขนาดเล็กจิ๋วหรือใหญ่สักเพียงใดก็ล้วนแล้วแต่ชวนให้หมด ความมั่นใจไปได้เสียทุกครั้ง วันนี้กระปุกดอทคอมจึงมีวิธีดี ๆ เกี่ยวกับการศัลยกรรมหลากหลายรูปแบบมาให้ได้ลองพิจารณาเพื่อเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งในการดูแลแก้ไขปัญหารอยแผลผ่าตัดค่ะ
โดยทั่วไปแล้วแผลเป็นจากรอยผ่าตัดส่วนใหญ่จะเป็นแผลคีลอยด์ คือ มีลักษณะเป็นเส้นยาวนูนออกมาจากขอบแผลเดิม มีสีแดงหรือสีออกคล้ำ ๆ เมื่อกดเบา ๆ อาจรู้สึกเจ็บและอาจโตขึ้นได้ ซึ่งก็อาจขึ้นอยู่กับขนาดและที่มาของการเกิดของแผลเป็นนั้น ๆ ด้วย ซึ่งสามารถทำการรักษาหรือตกแต่งให้แผลลดน้อยลงหรือดูดีได้จนเกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ดังวิธีการต่อไปนี้
รักษาด้วยการใช้ยาและแผ่นซิลิโคนเจล
เป็นขั้นตอนการรักษาเบื้องต้นก่อนการดำเนินการรักษาขั้นอื่น ๆ เนื่องจากแผลผ่าตัดของบางคนมีขนาดและร่องรอยขนาดเล็กที่สามารถรักษาได้ด้วย การทายาแก้รอยแผลเป็นหรือแปะแผ่นซิลิโคนเจลที่มีส่วนผสมของยาสเตรอยด์ วิตามินอี วิตามินเอ ลงบนแผลเป็นจะช่วยทำให้ยุบลงได้แบบไม่ต้องเจ็บตัว แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างนานสักเล็กน้อยกว่าจะเห็นผล
รักษาด้วยการฉีดด้วยสเตรอยด์
เป็นวิธีการที่ช่วยลดการนูน อักเสบ บวมของรอยให้นิ่มหรือยุบตัวลง ด้วยวิธีการฉีดตัวยาสเตรอยด์เข้าไปบริเวณแผล (ซึ่งอาจมีความเจ็บปวดได้) เพื่อไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนังในบริเวณนั้นและช่วยลดความคัน ในบริเวณปากแผลได้ โดยทำการฉีดเดือนละครั้งหรือตามแต่แพทย์กำหนดจนกว่าแผลจะหาย
รักษาด้วยการผ่าตัดศัลยกรรม
วิธีนี้จะเป็นขั้นตอนที่ช่วยตกแต่งแผลเดิมให้ดีขึ้นด้วยการผ่าตัดเย็บแผลใหม่ลงไปแทน เสมือนเป็นการปรับลดขนาดแผลให้เล็กลงอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แพทย์จะทำควบคู่ไปกับการฉีดสเตรอยด์และทายาเพื่อช่วยให้แผลหายได้รวดเร็วขึ้น
รักษาด้วยการทำเลเซอร์
คือวิธีการที่ควรเข้ารับการทำหลังจากที่รอยแผลเป็นนูนได้รับการผ่าตัดหรือฉีดสเตรอยด์แล้ว เนื่องจากการทำเลเซอร์ลำแสงต่าง ๆ นี้จะช่วยลบและตกแต่งชั้นผิวที่นูนขรุขระให้ดูเรียบเนียนขึ้น เหมือนการเก็บงานในขั้นตอนสุดท้ายนั่นเอง ซึ่งก็ต้องให้แพทย์พิจารณาตามความเหมาะสมของแผลเป็นของแต่ละบุคคลด้วย
อย่างไรก็ดีหากเลือกวิธีการรักษาโดยการศัลยกรรมตกแต่งแผลจนหายดีแล้ว ก็อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และดูแลผิวหนังบริเวณแผลเหล่านี้ไม่ให้เกิดรอยแผลซ้ำขึ้นมาอีกด้วย
ขอบคุณที่มา จาก www.kapook.com