ใกล้เทศกาลเข้ามาทุกทีแล้ว และสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับความรื่นเริ่งในช่วงเทศกาลนอกจากเสียงดนตรีที่สนุกสนานแล้วนั่นก็คือ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์นั่นเอง
แต่สำหรับนักดื่มทั้งหลายต้องรู้ไว้ ไม่ใช่แค่ดื่มเป็นอย่างเดียว เพราะนอกจากจะทำให้เมามายสนุกสนานแล้วหากผสมกันแบบมั่วซั่วไปหมดอาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ สำหรับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้นห้ามดื่มหรือผสมกับสิ่งเหล่านี้ จะมีอะไรบ้างไปดูกัน
ไดเอทโค้ก (Diet Coke) หรือ เครื่องดื่มน้ำอัดลมแคลอรี่ต่ำ เป็นเครื่องดื่มที่ผสมด้วยสารให้ความหวานเทียม พบว่า คนที่ดื่มสุราอย่างหนัก พร้อมกับผสมด้วยเครื่องดื่มน้ำอัดลมแคลอรี่ต่ำ จะพบปริมาณความเข้มข้นของแอลกอฮอล์อยู่ในระดับที่สูงกว่าคนที่ดื่มสุราโดยไม่ผสมเครื่องดื่มเหล่านี้เลย 18 เปอร์เซนต์
เครื่องดื่มชูกำลัง มีส่วนผสมของคาเฟอีนอยู่จำนวนมาก ซึ่งเป็นสารที่ไปกระตุ้นการเต้นของหัวใจ และกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ไม่ง่วงเหงาหาวนอน และรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ตรงข้ามกับขัดแย้งกันของแอลกอฮอล์ที่ออกยับยั้งประสาท ทำให้ผู้ดื่มมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดในสมองแตก หรือระบบประสาททำงานผิดปกติ
เหล้าสีเข้มอย่างเช่น สก๊อตวิสกี้ (Scotch Whisky) และ เบอร์เบิ้นวิสกี้ (Bourbon Whiskey) คือสุรากลั่นที่ทำจากข้าวหรือข้าวข้าวโพดหรือ Grain ชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือหลายชนิดก็ได้โดยนำมาหมักแล้วกลั่นให้มีดีกรีสูงขึ้น จากนั้นนำไปเก็บบ่มในถังไม้โอ๊ก ยิ่งสีเข้มเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้คุณแฮงค์มากขึ้นเท่านั้น
การดื่มเครื่องดื่มประเภท : แอลกอฮอล์ + ไฟ = อันตราย มีผลทำให้ ริมฝีปาก คาง และบริเวณหน้าอก แสบร้อนและได้รับความทรมานจากการเผาไหม้ภายหลังที่พวกเขาดื่มเครื่องดื่มติดไฟไปแค่ไม่กี่ชอต นอกจากนี้ หากนักดื่มกินทั้งหลายเกิดคึกคะนองอย่างเล่นสนุกพ่นไฟออกมา ก็อาจเกิดอันตรายแก่ตนเองและผู้ที่อยู่ใกล้เคียงได้
การดื่มสุราปลอมนั้นอันตรายกว่าสุราจริงหลายเท่า สุราโดยทั่วไปคือเครื่องดื่มที่มี “เอทิลแอลกอฮอล์” ผสมอยู่ แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปลอม มักจะใช้ “เมทิลแอลกอฮอล์” มาผลิตแทน เมื่อร่างกายรับเข้าไปจะเกิดการสลายตัวเป็นกรดฟอร์มิก หรือฟอร์มัลดีไฮด์ (น้ำยาดองศพ) ในร่างกายจะออกฤทธิ์ทำลายเนื้อเยื่อของร่างกาย โดยเฉพาะในส่วนของจอตาทำให้ตาบอด ซึ่งเป็นการทำลายแบบถาวร
“ดื่มเหล้าแล้วไม่ควรกินยา” ยาทุกชนิดมีส่วนในการที่รักษาโรค แล้วก็มีสารพิษด้วย ถ้ากินยาหลังจากที่ได้ดื่มเหล้า แอลกอฮอล์ก็จะทำให้ผลแทรกซ้อนของยาแรงขึ้น และขยายบทบาทความเป็นพิษของยาด้วย
ห้ามกินทุเรียนคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ ไวน์ ฯลฯ เพราะในทุเรียนมีสารกำมะถันอยู่มาก สามารถละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ ถ้ากินทุเรียนคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะส่งผลให้แอลกอฮอล์ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วขึ้น ทำให้เมาเร็วและเมาหนัก เกิดความผิดปกติต่อระบบหายใจ เกิดอาการร้อนใน แน่นอก ขาดน้ำและอาจเสียชีวิต
การเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บรรจุกระป๋องเป็นประจำจะทำให้เกิดเป็นโรคไขมันพอกตับซึ่งเป็นอันตรายยิ่งกว่า โดยให้เหตุผลว่า เครื่องดื่มบรรจุกระป๋องเหล่านี้มีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่จำนวนมากซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดโรคดังกล่าว
ผู้ดื่มแค่รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ผิวกายเท่านั้น แต่ที่ไม่รู้สึกตัวกันก็คืออุณหภูมิที่ลดต่ำลงภายในแกนกลางร่างกายแอลกอฮอล์จึงไม่ใช่วิธีที่ดีที่จะทำให้ร่างกายรู้สึก “อุ่น” แต่กลับทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง โดยเพิ่มอุณหภูมิ (เล็กน้อย) ที่ผิวหนัง (ดูได้จากการหน้าแดง ดูมีเลือดฝาด) สุดท้ายอาจเกิดภาวะ Hypothermia ได้ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะภายในร่างกายและหากรุนแรงก็ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย
เรียบเรียงโดย โดดเด่นดอทคอม
ที่มา radradio.becteroradio.com