ดูแลสุขภาพ : ขับถ่ายผิดปกติ ท้องผูกเรื้อรัง เสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักเป็นโรคที่พบบ่อยมากขึ้นในปัจจุบัน ในประเทศไทยจากสถิติสถาบันมะเร็งแห่งชาติล่าสุดปี 2555 โดยรวมพบผู้ป่วยใหม่มากเป็นอันดับ 2 และพบมากเป็นรองแค่มะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง ผู้ป่วยมักจะมีอาการการขับถ่ายที่ผิดปกติเรื้อรัง อาจจะท้องผูกสลับท้องเสีย ปวดท้องเรื้อรังหรืออาจจะมาตรวจด้วยอาการของโลหิตจางแต่มีอาการแล้วมักจะพบว่าเป็นมะเร็งระยะลุกลามซะมากกว่า
ดังนั้นจึงเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่าแนะนำให้ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักในประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยที่ยังไม่มีอาการและไม่มีประวัติการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว ในปัจจุบันการตื่นตัวดูแลสุขภาพของประชาชนเพิ่มมากกว่าสมัยก่อนทำให้ตรวจพบมะเร็งได้ในระยะแรกมากขึ้น หรือแม้แต่การตัดติ่งเนื้อลำไส้เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ก็พบมากขึ้นเช่นกัน
การรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่ดีที่สุดและทำให้หายจากโรคได้ในปัจจุบันยังเป็น “การผ่าตัดรักษา” การผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่ถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ มีแผลผ่าตัดมักเป็นบริเวณกลางท้องยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร หลังการผ่าตัดผู้ป่วยต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลอย่างน้อย 1 สัปดาห์ แม้ปัจจุบันจะมีการดูแลหลังผ่าตัดที่ดีขึ้นมาก ทั้งยาปฏิชีวนะหรือการให้ยาแก้ปวดบรรเทาหลังผ่าตัด แผลผ่าตัดที่ใหญ่ก็มีโอกาสติดเชื้อหรือแตกแยกเป็นไส้เลื่อนได้มากกว่าการผ่าตัดอวัยวะอื่นๆ ในช่องท้อง หลังกลับบ้านก็ต้องพักฟื้นสภาพร่างกายอีกร่วมเดือน
ในระยะ 20 ปีที่ผ่านมา การผ่าตัดมะเร็งลำไส้ได้มีการพัฒนามามากกว่าสมัยก่อนจากการผ่าตัดเปิดหน้าท้องมาเป็นการผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscopic surgery) ซึ่งมีการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศว่ามีประสิทธิผลในการรักษามะเร็งไม่แตกต่างกับการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง แต่มีข้อได้เปรียบกว่ามาก ที่เห็นได้ชัดคือแผลผ่าตัดเล็กลง ลดการบาดเจ็บจากการผ่าตัด อาการปวดหลังผ่าตัดลดลงที่สำคัญยังพบว่าการฟื้นตัวหลังผ่าตัดดีขึ้น การทำงานของลำไส้หลังผ่าตัดกลับมาเร็วขึ้น ส่งผลให้ระยะการนอนโรงพยาบาลสั้นลงเหลือ 4-5 วันหลังผ่าตัด และการพักฟื้นสภาพร่างกายหลังกลับบ้านก็จะดีขึ้นตามไปด้วย
และเมื่อเร็วๆ นี้เทคโนโลยีการแสดงภาพและเครื่องมือกล้องที่มีความละเอียดชัดเจนมากขึ้นมากในระดับที่มากกว่า Full High Definition ส่งผลให้เห็นเนื้อเยื่อระหว่างการผ่าตัดที่ชัดเจนและเอาก้อนมะเร็งได้ดีมากขึ้น ล่าสุดเทคโนโลยีการผ่าตัดผ่านกล้อง 3 มิติ (3DFull High Definition Laparoscopic Surgery) ถูกนำมาใช้เพื่อให้การผ่าตัดส่องกล้องแสดงภาพเป็น 3 มิติ เสมือนเข้าไปผ่าตัดในช่องท้องแบบการผ่าตัดเปิด เห็นรายละเอียดในเชิงลึกแม้มองการผ่าตัดจากจอมอนิเตอร์ ช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำทำได้รวดเร็ว และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นพ.กษิดิน วิทูภิญโญภาพ
แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
คลินิกศัลยกรรมลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
โรงพยาบาลนนทเวช