จิ้ม…หน้าเหลี่ยมให้เป็นหน้าเรียว จิ้ม…เข็มเดียวแล้วหน้าจะเด็ก นิยามข้างต้น ทำให้คุณนึกถึงอะไร? ผู้สื่อข่าวเชื่อว่า หนึ่งคำตอบภายในใจของคุณ คงจะนึกถึง “โบท็อกซ์” ยามหัศจรรย์ที่สามารถปั้นแต่งใบหน้าให้สวยตึงเด้งเรียวดั่งเสกได้ ซึ่งวินาทีนี้ เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า “โบท็อกซ์” กำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากกลุ่มคนรักสวยรักงาม ไล่ไปตั้งแต่ดาราชั้นนำยันชาวบ้านลูกตาสีตาสา…
(หมายเหตุ : โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) อันเป็นสารพิษที่สร้างขึ้นโดยแบคทีเรียที่มี ชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) ซึ่งสารพิษชนิดนี้ จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทําให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตชั่วคราว)
ทว่า ราคาของเจ้าตัวโบท็อกซ์เอง ก็ไม่ใช่ราคาถูกๆ ห้าบาทสิบบาท จนทำให้เธอคนนั้นฉันคนนี้สามารถวิ่งเข้าไปฉีดได้โดยง่าย แต่จะทำอย่างไรได้เล่าเออ ในเมื่อหัวใจมันเรียกร้องต้องการความสวย จนหลายต่อหลายคนต้องลอบหาทางลัดหลบเลี่ยง “ราคาสูง” ที่แลกมาด้วย “ความเสี่ยง” ” และวิธีนั้นก็คือ “ซื้อโบท็อกซ์จากอินเทอร์เน็ตมาฉีดเอง” คุณสามารถพิสูจน์ “ความเสี่ยง” นี้ได้ง่ายๆ เพียงพิมพ์คำค้นหาว่า “ซื้อโบท็อกซ์” ลงใน google จากนั้นสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าของคุณก็คือ ร้านค้ามากมายที่จำหน่าย “โบท็อกซ์” ผ่านอินเทอร์เน็ตกันอย่างโจ๋งครึ่ม ทั้งๆ ที่การกระทำเช่นนี้เป็นการทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน
โบท็อกซ์ = ยาควบคุมพิเศษ ห้ามจำหน่ายมั่วซั่ว! โดย เภสัชกรประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องดังกล่าวไว้ว่า “สำหรับผู้ที่ประกาศขายโบท็อกซ์ ไม่ว่าจะในอินเทอร์เน็ต หรือในร้านขายยานั้น ถือว่ามีความผิดทางกฎหมายทั้งสิ้น
เนื่องจากยาประเภทดังกล่าว เป็นยาควบคุมพิเศษ ซึ่ง อย.ได้กำหนดการใช้งานไว้ว่า ต้องใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และต้องขายจากบริษัทผู้นำเข้าส่งไปที่สถานพยาบาลโดยตรง เพราะฉะนั้น โบท็อกซ์จึงไม่สามารถขายในร้านขายยา หรือช่องทางอื่นใดได้”
เมื่อเปิดเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของร้านขายโบท็อกซ์เถื่อนเหล่านี้ จะพบว่า แต่ละร้านประกาศขายโบท็อกซ์กันอย่างโจ่งแจ้ง และมีไม่ต่ำกว่าสิบยี่ห้อที่ นำมาประกาศขาย โดยมีทั้งยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจาก อย. และยังไม่ผ่านการรับรองจาก อย. แต่อย่างไรก็ตาม ทุกร้านจะมีการโฆษณาไปในทิศทางเดียวกันว่า โบท็อกซ์ของร้านตนเองเป็นของแท้ 100% ปลอดภัย เห็นผลรวดเร็วทันใจ และได้รับสินค้าแน่นอน
จากนั้น ทางผู้สื่อข่าวได้ทำทีเข้าไปเป็นลูกค้าร้านขายโบท็อกในอินเทอร์เน็ต โดยสอบถามไปที่แอพพลิเคชันไลน์ที่ทางร้านได้ให้ไลน์ไอดี ไว้บนหน้าเว็บไซต์ และเมื่อผู้สื่อข่าวแอดไลน์ไปเป็นที่เรียบร้อย ก็พบกับชื่อโปรไฟล์ไลน์ที่มีชื่อว่า “แบ่งขายปลีก-ส่งBotox” และอีกร้านหนึ่งมีชื่อโปรไฟล์ไลน์ว่า “Botox ปลีก-ส่ง”
ผู้สื่อข่าวทำทีเป็นพูดคุยซักถามรายละเอียดโบท็อกซ์จากทางร้าน ซึ่งทั้งสองร้านที่ทีมข่าวได้ติดต่อไปนั้น ได้กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า โบท็อกซ์ของร้านตนเองนั้น เป็นของแท้แน่นอน !
โดยร้านที่ใช้ชื่อโปรไฟล์ไลน์ว่า “แบ่งขายปลีก-ส่งBotox” ได้บอกเล่ากับผู้สื่อข่าวว่า ทางร้านจำหน่ายโบท็อกซ์มานานแล้ว โดยมีลูกค้านับพันคนที่ซื้อโบท็อกซ์จากร้านของตนไปฉีด เพราะฉะนั้น หากผู้สื่อข่าวซื้อสินค้าจากทางร้าน ผู้สื่อข่าวจะไม่เสียเงินฟรีอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ทางร้านยังได้แนะนำคลินิกที่รับฉีดให้แก่ผู้สื่อข่าวด้วย โดยระบุเพียงว่า ร้านแห่งนี้มีที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หากผู้สื่อข่าวอยากรู้ว่าร้านชื่ออะไร ผู้สื่อข่าวต้องซื้อสินค้าจากทางร้านเพื่อแลกกับชื่อคลินิกที่รับฉีด
ขณะที่ ร้าน “Botox ปลีก-ส่ง” ได้บอกเล่ากับผู้สื่อข่าวผ่านแอพพลิเคชันไลน์ว่า หากลูกค้าซื้อโบท็อกซ์ของทางร้านไปฉีด ลูกค้าจะเห็นผลภายใน 1-2 วัน
หรืออย่างเร็วที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 3 ชั่วโมง พร้อมแนะนำร้านที่รับฉีดให้แก่ผู้สื่อข่าวด้วย ซึ่งเป็นคลินิกแห่งหนึ่งในย่านพหลโยธิน โดย นพ.จักรพงษ์ ชุณหเสวี ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ ด้านโรคผิวหนัง สถาบันโรคผิวหนัง ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวไว้ว่า โบท็อกซ์ จะเริ่มเห็นผลจากหลังจากฉีดประมาณ 1-2 สัปดาห์ และจะเห็นผลเต็มที่ใน 4 สัปดาห์ โดยผู้อ่านสามารถพิจารณาอย่างมีสติและรอบคอบ ได้จากภาพด้านล่าง ดังต่อไปนี้ จากการพูดคุยกับทางร้าน “แบ่งขายปลีก-ส่งBotox”
จากการพูดคุยกับทางร้าน “Botox ปลีก-ส่ง”
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้ทำการเสาะหาร้านค้าที่ลักลอบขายโบท็อกซ์ผ่านเฟซบุ๊กอีกด้วย โดยผลปรากฏว่า มีเพจเฟซบุ๊กหลายต่อหลายเพจประกาศขายโบท็อกซ์ผ่านอินเทอร์เน็ตกันอย่างโจ๋งครึ่ม ทั้งๆ ที่การกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย…
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่สนอกสนใจ “โบท็อกซ์” โปรดติดตามตอนต่อไป เพราะคุณจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว !