ที่มา: voicetv

รัฐบาลยันไม่คิดยกเลิกรถเมล์-รถไฟฟรี เร่งคลอดมาตรการช่วยเหลือให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เชื่อมโยงระบบตั๋วร่วม (E-ticket)

538730

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนด้านการเดินทาง หรือโครงการรถเมล์-รถไฟฟรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายชัดเจนให้กระทรวงคมนาคมไปพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือลดค่าครองชีพด้านการเดินทางแก่ผู้มีรายได้น้อยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการนำรายละเอียดมาตรการใหม่ที่จะให้บริการฟรีเฉพาะกลุ่มแบบมีเงื่อนไขไปเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลผู้มีรายได้น้อย

“รัฐบาลไม่ได้คิดยกเลิกรถเมล์-รถไฟฟรี แต่นายกรัฐมนตรีต้องการให้โครงการนี้ได้ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง และบริหารจัดการงบประมาณของชาติให้คุ้มค่ามากขึ้น เพราะที่ผ่านมาโครงการนี้มีการนำภาษีของส่วนรวมไปอุดหนุนให้แก่คนทั่วไป ซึ่งมีทั้งคนที่ไม่ได้มีรายได้น้อยจริง รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของโครงการ ถือเป็นการใช้จ่ายเงินที่เน้นประชานิยม ทำให้รัฐต้องแบกรับภาระมาก เกิดการขาดทุนซ้ำซาก ไม่ใช่การช่วยเหลือที่ถูกจุด”

สำหรับความคืบหน้าของมาตรการขณะนี้ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร จะดำเนินการรับลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยร่วมกับการสำรวจข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ประจำปี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและประมวลผลได้ภายในเดือนเมษายนปีหน้า (59) โดยผู้ที่มีรายได้น้อยที่แท้จริง เช่น มีรายได้ต่ำกว่า 3,632 บาทต่อเดือน และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี จะได้รับลดหย่อนค่าโดยสารหรือยกเว้นค่าโดยสาร รวมทั้งมีระบบบัตรเดือนพิเศษสำหรับบุคคลทั้ง 2 กลุ่ม ทั้งนี้ ขสมก.จะจัดบริการรถโดยสาร 1,519 คันต่อวัน และ รฟท.จะจัดบริการรถไฟชั้น 3 ขบวนรถเชิงสังคม 164 ขบวนต่อวัน และขบวนรถเชิงพาณิชย์ 8 ขบวนต่อวัน อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ประชาชนทั่วไปยังสามารถใช้สิทธิ์ตามโครงการรถเมล์-รถไฟฟรีได้จนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2559

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีกำชับให้ทั้ง 3 หน่วยงาน บูรณาการร่วมกันเพื่อเร่งรัดการรับลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว พร้อมทั้งจัดทำรายละเอียดทั้งหมดเสนอ ครม.พิจารณา และดำเนินการประกาศใช้มาตรการดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเชื่อมโยงกับระบบตั๋วร่วม E-ticket ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ตรงจุด ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และลดภาระด้านงบประมาณอย่างยั่งยืน”

เรื่องน่าสนใจ