จากกรณีที่น.ส.นฤดี จอดสันเทียะ หรือน้องทราย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนโชคชัยสามัคคี อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ถูกนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูวิชาพละศึกษาของโรงเรียนขว้างปาถ้วยแก้วถูกกกหูด้านซ้าย ทำให้ใบหน้าเสียโฉม ปากเบี้ยว ตาซ้ายปิดไม่สนิท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศธ. กล่าวว่า นายการุณ สุกลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้รายงานให้ทราบเบื้องต้นแล้วว่าทางครูคนดังกล่าวยอมรับว่าทำจริง
ถือว่าเป็นการกระทำที่ ลุด้วยโทสะ เพราะคนที่เป็น ครูควรควบคุมอารมณ์มากกว่าปกติ แม้จะเห็นใจครูที่ต้องพบเจอและรับมือกับเด็กที่มีลักษณะที่หลากหลาย แต่ก็ช่วยไม่ได้ เนื่องจากผู้ประกอบวิชาชีพครูต้องรู้จักอดทน
ไม่ว่าเด็กจะมีพฤติกรรมอะไรก็เป็นไปตามวัยของเขา คนเป็นครูต้องหาวิธีการดูแลหรือลงโทษที่เหมาะสม ไม่ควรใช้วิธีนี้ แม้จะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจก็ตาม สำหรับการรักษาพยาบาลทราบว่าทางโรงเรียนและครูกำลังต่อรองกับครอบครัวเด็กอยู่ จากนี้ผู้ที่มีหน้าที่จะต้องลงไปสอบสวนและรายงานผลมาเป็นลำดับชั้น
“สิ่งที่ครูทำถือว่าผิด แต่ผมก็เข้าใจทั้ง 2 ทาง เข้าใจครูว่าต้องอดทนรับแรงกดดันหลายเรื่อง แต่เมื่อเป็นครูจะทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ผมไม่อยากให้ไปอ้างอดีตว่าสอนยังไง ลงโทษยังไง มันไม่ใช่เพราะตอนนี้เป็นคนละสมัยแล้ว
ตัวเด็กเองมีเหตุมีผลมากขึ้น ถ้าเราไม่ฝึกให้ลูกศิษย์มีเหตุมีผล ต่อไปสมองเขาก็ไม่รู้จักคิดวิเคราะห์ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่เราพยายามส่งเสริมอยู่ ผมขอฝากความหวังไปถึงผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผอ.โรงเรียนทุกคน ขอให้หันไปดูครูที่อยู่ในการดูแลด้วย ต้องรู้จักนิสัยใจคอของเขา ดูว่าเขามีปัญหาอึดอัดอะไร อย่าปล่อยปละจนเกิดเหตุแบบนี้ ซึ่งผมเสียใจในเรื่องที่เกิดขึ้น ครูคนนี้คงต้องยอมรับสภาพ ขณะที่ครูคนอื่นๆ ก็ควรดูเป็นตัวอย่างและต้องรู้จักอดทนกับเด็กๆ” รมว.ศธ. กล่าว
ด้านนายชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองปลัดศธ. ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า คุรุสภาได้มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคุรุสภา ลงไปตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว ซึ่งในแง่ของจรรยาบรรณถือว่าผิด แต่ต้องดูด้วยว่าเป็นการกระทำที่เกิดจากการบันดาลโทสะหรือไม่
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้คงไม่สามารถใช้อำนาจของเลขาธิการคุรุสภา พักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั่วคราวได้ เพราะไม่อยู่ในขอบข่าย 4 กรณี ได้แก่ ยาเสพติด หรือค้าประเวณี มีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อนักเรียน หรือนักศึกษา ถูกฟ้องคดีอาญาในความผิดที่เกี่ยวกับทรัพย์ หรือทุจริตต่อหน้าที่