ที่มา: Matichon Online

เนื้อหาบางส่วนโดย Dodeden.com 

ออกมาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์มติชน หลังจากกระโดดมารับบทบาทสุดแสนจะร้ายจนคนเกลียดกันทั้งบ้านทั้งเมือง กับคุณรัดเกล้า อามระดิษ ที่ออกมาพูดถึงบทบาทที่ได้รับอย่าง อีแย้ม ในละครเรื่องสุดแค้นแสนรัก เจ้าตัวปลื้มกระแสดี ยิ้มร่ารับคนเกลียดกันทั้งบ้านทั้งเมือง  

ที่ถึงแม้ก่อนที่ละครจะลงจอฉายนั้น หลายคนมองว่าเป็นละครนอกกระแส ไม่มีพระเอกดังของช่อง หลายๆ คนจึงมองข้ามที่จะดูละครเรื่องนี้และต่างคิดกันว่าเป็นละครที่ไม่น่าดูเลยแม้แต่น้อย ทั้งไม่มีคู่จิ้น มีแต่นักแสดงหน้าใหม่ แต่สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นว่า เป็นละครที่ฟีเวอร์มากที่สุด และถ้าจะพูดว่าทุกอย่างเป็นเพราะรัดเกล้า อามระดิษ ที่รับบทอีแย้ม จนทำให้กระแสละครเรื่องนี้ดีเวอร์ ก็คงจะไม่ผิด!  

ซึ่งรัดเกล้าก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางหนังสือพิมพ์มติชนเอาไว้ว่า “คนเกลียดทั้งบ้านทั้งเมือง” รัดเกล้าว่าพลางหัวเราะ “จริงๆ ไม่ได้คาดหวังอะไร แค่ตั้งใจทำงาน ณ วินาทีนั้นให้ดีที่สุด สำหรับเรางานเสร็จก็คือจบแล้ว” แต่เมื่อกระแสเกินคาดเช่นนี้ ก็พลอยดีใจและอยากขอบคุณผู้ชมในฐานะทีมงานคนหนึ่ง ด้วย “เราใช้เวลาถ่ายทำนาน 16 เดือน โลเกชั่นอยู่ต่างจังหวัดทั้งหมด ต้องเผื่อเวลาเดินทาง ต้องเซตทุกอย่าง ต้องให้รายละเอียดกับสิ่งต่างๆ พอสมควร เพราะเป็นละครย้อนยุค” 

29

โดยตอนแรกที่ค่าย เมคเกอร์ เค ติดต่อมานั้นยอมรับว่า “ไม่ได้อ่านบทละเอียดมาก แค่รู้คร่าวๆ ว่าเป็นคนยังไง พอเล่นไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าขนาดนี้เลยเหรอ ยังแอบถามพี่ หนุ่ม-กฤษณ์ ศุกระมงคล (ผู้จัด-ผู้กำกับ) อยู่ว่าไม่มีใครยอมเล่นใช่ไหมคะ ถึงให้หนูมาเล่น” ซึ่งคำตอบที่ได้จากผู้จัดคือ “เสียงหัวเราะ” ที่ชวนคิดเอามากๆ 

“แรกๆ รู้สึกว่าคิดถูกหรือเปล่า เพราะตัวละครนี้มีแต่ด่า ตบตีคนอื่น แล้วคนดูจะได้อะไรจากเขา เกิดความกังขาในตัวเอง แต่พอแย้มอายุมากขึ้น ทุกอย่างชัดมาก”  นั่นคือบทเรียนชีวิตที่คนช่างคิดช่างแค้นต้องเผชิญ “แต่เราเข้าใจแย้มนะ” เธอพูดอย่างจริงจัง “เข้าใจเหตุผลเบื้องหลังการกระทำของเขาทุกอย่าง เข้าใจว่าคนแบบนี้มีอยู่จริงและสงสาร”  ซึ่งเมื่อเข้าใจตัวละครดีพอ ปัญหาเรื่องการถ่ายทอดบทจึงไม่มี

หากที่ยากคือการถ่ายทำแบบไม่เรียงฉากทำให้ 2 ผู้กำกับอย่าง หนุ่ม และ อดุลย์ ประยันโต ต้องคอยเตือนถึง “ระดับอารมณ์และอายุ” เป็นต้นว่า “ตอนนี้แก่นะ จะแรงเยอะเหมือนอายุ 40 ไม่ได้ ฉากที่ผ่านมาเพิ่งตบตีกัน ฉากนี้จะโกรธน้อยกว่าไม่ได้”  ทว่าสิ่งที่เสมอต้นเสมอปลายของแย้มคือ ทัศนคติ 

30

“ถ้าพูดด้วยคำหยาบคือกมลสันดานไม่เปลี่ยนเลย แต่อายุที่มากขึ้นอาจทำให้แรงน้อยลง ลุกขึ้นอาละวาดหรือตบตีกับคนอื่นได้ไม่มากเท่าตอนอายุน้อย หากฉากลงไม้ลงมือที่ว่ายาก กลับเทียบฉากเก็บกดอารมณ์ไม่ได้ เช่น ตอนที่ “อัมพร” (โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) แอบมาหา”ยงยุทธ” (แก๊ป-จักริน ภูริพัฒน์) ที่โรงเรียน ในบทน่ะโกรธมากกก…แต่ระเบิดอารมณ์ไม่ได้เลยต้องแสดงทางสีหน้าแทน พอคัตปุ๊บรู้สึกเหมือนเส้นเลือดในสมองจะแตก รู้เลยว่าความดันขึ้น” 

ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ของแถมเป็นอาการปวดท้องแบบไม่มีสาเหตุกลับบ้านด้วย อันนี้คือผลพวงจาก”ความเครียด” ที่แย้มมอบให้แต่แง่ดีก็มีคือ “ความมโนเก่ง” จนชวนขำ
“บางทีพูดคนเดียว 20 ประโยค จนหันไปขำกับผู้กำกับเลยว่าเป็นอะไรมากไหมเนี่ย” รัดเกล้าเล่าพลางหัวเราะ 

31

ยิ่งไปกว่านั้นรัดเกล้ายังบอกว่าตัวเองน่ะมีส่วนเหมือนแย้ม!!…แต่เฉพาะ”ความจริงจัง” ในการทำงานเท่านั้นนะ “ถือว่าถ้ารับปากแล้วต้องให้ที่สุดของเรากับงานนั้น พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่สถานการณ์แวดล้อม สุขภาพ และเวลาจะอำนวย ไม่อยากเดินจากไปแล้วเสียดายว่าทำไมไม่ทำแบบนั้น อยากจะพอใจว่าเราผ่านขณะนั้นไปแล้วและทำได้ดี”

และนี่ก็เป็นบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งของรัดเกล้า อามระดิษ ผู้รับบทอีแย้ม ในละครสุดแค้นแสนรัก ที่ตอนนี้กำลังเป็นกระแสฟีเวอร์ ที่ถึงแม้คนจะเกลียดอีแย้มมากแค่ไหน แต่ก็อดชื่นชมในฝีมือการแสดงที่สุดยอดของคุณรัดเกล้า อามระดิษในคราวเดียวกันไม่ได้จริงๆ! 

เรื่องน่าสนใจ