นำเสนอข่าวโดย โดดเด่นดอทคอม
ภาพ โดดเด่นดอทคอม
เว็บไซต์โดดเด่นดอทคอม ( www.dodeden.com ) รายงานว่า ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ประกาศจัดประชุมวิชาการประจำปี 2558 อันเป็นการประชุมครั้งที่ 31 ในระหว่างวันที่ 26 ถึง 29 มีนาคมนี้
โดยนอกเหนือจากการประชุมร่วมของอายุรแพทย์ไทยจากทั่วประเทศแล้ว ในปีนี้ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ยังได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติอายุรศาสตร์ในแถบประเทศอาเซียน ครั้งที่ 2
ภายใต้หัวข้อ “เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของ AEC” ซึ่งจะมีวิทยากรและผู้เข้าร่วมประชุมจากหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ อีกด้วย
ดังนั้น นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนความรู้และโอกาสที่อายุรแพทย์จะได้พบปะสังสรรค์สร้างความรู้จักคุ้นเคยกันแล้ว ยังมีการนำเสนอผลงานทางวิชาการ การวิจัยใหม่ๆ
การแนะนำ แพทย์ผู้มีผลงานหรือปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างโดดเด่น และประกวดงานวิจัย ที่สำคัญ ในช่วงบ่ายของวันที่ 29 มีนาคม อันเป็นวันสุดท้ายของการประชุม ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ จะจัดกิจกรรมเพื่อประชาชน ให้ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วม
โดยในงานจะมีทั้งบริการตรวจสุขภาพพื้นฐาน นิทรรศการความรู้ที่น่าสนใจ และการเสวนาความรู้เรื่องโรคภัยใกล้ตัวที่ล้วนน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
ศาสตราจารย์นายแพทย์ ธานินทร์ อินทรกำธรชัย ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย เป็นสถาบันในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่เป็นศูนย์รวมอายุรแพทย์สาขาต่างๆ ของประเทศไทย ให้มีมาตรฐานสากล
โดยมีพันธกิจหลักในการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อสร้างอายุรแพทย์ที่มีความสามารถ ส่งเสริมสนับสนุนแพทยศาสตร์ศึกษาและการวิจัย เสริมสร้างจรรยาแพทย์และจริยธรรม และสร้างความสัมพันธ์ความสามัคคีทั้งในกลุ่มอายุรแพทย์ และระหว่างอายุรแพทย์กับแพทย์สาขาวิชาอื่นๆ
ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งนับเป็นปีที่ 31 แล้ว ที่ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ ได้จัดการประชุมทางวิชาการ”
ที่สำคัญในปีนี้ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติอายุรศาสตร์ในแถบประเทศอาเซียน ครั้งที่ 2 ภายใต้หัวข้อ “เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของ AEC” ด้วย
ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ จึงได้ผนวกการประชุมนานาชาตินี้เข้ากับการประชุมวิชาการประจำปีที่ 31 ที่จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 26 – 29 มีนาคม นี้ ที่ Bangkok Convention Centre ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีชื่อการประชุมครั้งนี้ว่า
The 2nd Meeting of the Asean Federation of Internal Medicine (AFIM)
in conjunction with
The 31st Annual Meeting of the Royal College of Physicians of Thailand
“Medicine Beyond Frontiers: Towards a Healthier AEC”
ศาสตราจารย์นายแพทย์ ปิยะมิตร ศรีธรา ประธานคณะอนุกรรมการวิชาการ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย และประธานในการจัดการประชุมครั้งนี้ กล่าวว่า
“การประชุมครั้งนี้ นับเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ เพราะนอกเหนือจากอายุรแพทย์ไทยจากทั่วประเทศแล้ว ยังมีทั้งวิทยากรและผู้เข้าร่วมประชุม จากกลุ่มประเทศอาเซียนและสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
นอกจากนี้ องค์ประกอบของการประชุมครั้งนี้ ยังมีทั้งการบรรยายโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญผู้มีผลงานโดดเด่นและ workshop ซึ่งล้วนนำเสนอประเด็นและเรื่องราวที่น่าสนใจ
อาทิ โรคติดเชื้อในยุคปัจจุบัน การรับมือกับโรคต่างๆ ในสังคมผู้สูงอายุที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคอาเซียน วิทยาการใหม่ๆ ที่จะรับมือได้ดีกับโรคร้ายแรงต่างๆ เป็นต้น
ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ จึงคาดหมายว่า การประชุมครั้งนี้จะให้ผลลัพธ์ที่มีคุณค่ามากมาย และเป็นประโยชน์ยิ่งต่ออายุรแพทย์ไทยที่จะสามารถนำใช้ต่อประชาชนได้”
ส่วนสำคัญส่งท้ายการประชุมวิชาการคือกิจกรรมเพื่อประชาชน ในภาคบ่ายของวันที่ 29 มีนาคม ซึ่ง รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงศิวาพร จันทร์กระจ่าง ประธานคณะอนุกรรมการเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน ได้กล่าวเชิญชวนไว้ว่า
“นโยบายหลักของราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ ประการหนึ่งคือ การเผยแพร่ความรู้ทางอายุรศาสตร์ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ดังนั้น ในช่วงบ่ายของวันที่ 29 มีนาคม อันเป็นวันสุดท้ายของการประชุม จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อประชาชนให้ผู้สนใจได้เข้าร่วม
ประกอบด้วยบริการพื้นฐานเพื่อสุขภาพ อาทิ วัดความดันโลหิต วัดปริมาณไขมันในร่างกาย ตรวจวัดดัชนีมวลกาย เป็นต้น มีนิทรรศการและกิจกรรมจากเครือข่ายคนไทยไร้พุง และเวทีเสวนาประเด็นที่คนทั่วไปให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้
คือโรคเบาหวาน โรคอ้วนลงพุง โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดสมองโรคสมองเสื่อม โรคมะเร็ง โรคเอดส์ โรคปอด ตลอดจนความรู้เรื่องการฉีดวัคซีน
ซึ่งการเสวนานี้จะเปิดโอกาสให้ท่านผู้สนใจได้ซักถามคุณหมอผู้เชี่ยวชาญได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย จึงขอเชิญผู้สนใจทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อประชาชน
ได้ที่ห้อง World Ballroom B ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิล์ด ในวันที่ 29 มีนาคม ตั้งแต่เวลาบ่ายโมงถึงสี่โมงเย็น”
ศาสตราจารย์นายแพทย์ ธานินทร์ กล่าวปิดท้ายว่า “ปัจจุบันเราสามารถผลิตอายุรแพทย์ผู้ผ่านการประเมินให้ได้รับวุฒิบัตรผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมผู้เชี่ยวชาญทางด้านอายุรศาสตร์เฉลี่ยปีละ 280 คน และอนุสาขาต่อยอดต่างๆ ปีละ 340 คน
ทั้งยังได้จัดทำแผนกำลังอายุรแพทย์สำหรับประเทศไทยใน 10 ปี ข้างหน้า เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการผลิต การกระจายอายุรแพทย์ของประเทศไทยให้เหมาะสมและสอดคล้องต่อการเปลี่ยนแปลงทางการแพทย์และสังคมของประเทศ
รวมทั้งเข้าร่วมเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นกรรมการบริหารของ Asean Federation of Internal Medicine (AFIM) ซึ่งมีพันธกิจหลักในการร่วมมือด้านวิชาการ
การปรับมาตรฐานการฝึกอบรม และการประเมินความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ เพื่อสร้างความพร้อมตอบรับนโยบายการเปิดประเทศอาเซียน อันเป็นที่มาของการประชุมวิชาการประจำปีนี้ ที่ได้ผนวกเพิ่มเป็นการประชุมในระดับนานาชาติ”