รพ.รามาฯ เตือนไม่มีการขายครีมทาหน้า “อาหารผิวทองคำ” หลังพบแอบอ้างเป็นตัวแทนเภสัชกรรามาฯ ขายเกลื่อนในโซเชียลมีเดีย เข้าแจ้งความ ตำรวจดำเนินคดีแล้ว ด้านหมอผิวหนังแจงทองคำเป็นโมเลกุลใหญ่ ซึมสู่ผิวไม่ได้ ไม่มีผลให้ผิวหน้าดีขึ้น เว้นทองคำนาโนซึมเข้าผิวได้ แต่ทำหนังหน้าแย่ แก่เร็ว เพิ่มริ้วรอย
(17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ออกประกาศเตือนถึงประชาชน ตั้งแต่เมิ่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า โรงพยาบาลไม่มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมทาผิวหน้าที่มีส่วนผสมของแร่ทองคำชื่อ “SKIN Food Plus Gold” หรืออาหารผิวทองคำ ซึ่งมีการใช้ชื่อว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายจากเภสัชกร รพ.รามาธิบดี ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ และอินสตาแกรม เป็นต้น ทั้งนี้ หากจะมีการจำหน่ายเวชสำอางใดๆ จาก รพ.รามาธิบดี จะต้องได้รับความเห็นชอบผ่านการพิจารณาการสั่งยาจากแพทย์ของโรงพยาบาลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม รพ.รามาธิบดี ได้เข้าแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้ติดต่อเพื่อดำเนินคดีกับผู้แอบอ้างดังกล่าวอย่างถึงที่สุด ขอให้ประชาชนมีความระมัดระวังในการรับข้อมูล หาก รพ.รามาธิบดี พบเห็นการกระทำดังกล่าวอีกจะดำเนินการทางกฎหมายทันที
ด้าน นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ทองคำเป็นโลหะหนัก เป็นธาตุเฉื่อยมีโมเลกุลขนาดใหญ่ ไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ การอ้างว่าทองคำมีฤทธิ์ช่วยให้ผิวดีขึ้นจึงไม่เป็นความจริง ส่วนที่ทาครีมที่มีส่วนผสมของทองคำแล้วผิวดีขึ้นน่าจะเป็นส่วนผสมอย่างอื่นในครีมมากกว่า เช่นเดียวกันหากเกิดอาการแพ้ที่หน้าก็ไม่ได้มาจากทองคำ เพราะการแพ้จากทองคำนั้นน้อยมาก คงมาจากสารอื่นในครีมที่เป็นอันตรายต่อผิว เช่น สารหน้าขาว เป็นต้น
พล.ท.นพ.กฤษฎา ดวงอุไร กรรมการสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การใส่ทองคำลงในครีมทาหน้า คงเพื่อให้ครีมดูแวววาว แต่จริงๆ แล้วไม่มีผลว่าจะทำให้หน้าสว่าง ขาวใส แต่อย่างใด เนื่องจากทองคำเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่ ไม่สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ ยกเว้นหากเป็นทองคำนาโนส่วนนี้จะซึมเข้าสู่ผิวได้ แต่ไม่ได้ช่วยให้ผิวดีขึ้น เพราะมีการทดลองแล้วพบว่าทำให้หน้าแก่เร็วขึ้น เกิดริ้วรอยมากขึ้น เป็นผลเสียต่อผิวหน้า
ขอบคุณที่มา ผู้จัดการออนไลน์