ทำอะไรไม่ปิดบังอยู่แล้ว สำหรับเนตไอดอลชื่อดัง เธโอ ชิระ ที่เมื่อไม่นานมานี้ได้โพสต์ ไอจีส่วนตัวว่าได้ไปทำศัลยกรรมจมูกมาใหม่ ซึ่งโด่งพุ่งกว่าเดิมหลายเลเวลเลยทีเดียว ทำให้หลายคนก็มองว่าไม่น่าทำเลยจมูกเดิมก็ดีอยู่แล้ว จริงๆการทำจมูกนั้นช่วงแรกๆจะบวมทำให้หน้าตาดูแปลกๆ กว่าจะเข้าที่ก็หลายเดือน ซึ่งหลายๆคนก็มีคำถามมากมาย แต่เธโอก็ไม่เคยพูดหรือชี้แจงอะไร แต่วันนี้เธโอได้ให้โดดเด่นสัมภาษณ์ทุกประเด็นเกี่ยวกับ เรื่องการทำศัลยกรรมจมูกในครั้งนี้ และคำถามว่าเสพติดการทำศัลยกรรมหรือไม่ มีแพลนจะทำอะไรอีก และรีวิวจมูกแบบจัดเต็มไปติดตามกันเลย
ก็ต้องบอกก่อนว่า จริงๆเธก็ไม่ใช่คนหน้าตาดี เป็นคนธรรมดาที่เติมโตมาความยุคโซเชี่ยวที่ไปไหนทำอะไรก็จะต้องมีการถ่ายรูปแล้วก็โพสต์ แต่พอเราถ่ายรูปแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยโอเค ที่จะต้องคอยมาแต่งรูปทุกรูปที่ถ่ายกว่าจะได้โพสต์ ดังนั้นจึงคิดว่าเราแก้ปัญหาให้มันตรงจุดเลยดีกว่า ก็คือต้องปรับปรุงเรื่องหน้าตา นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาหน้าตาตัวเองครับ
เดิมจมูกก็พอมีดั้งอยู่บ้าง ก็ไปฉีดฟิลเลอร์ แต่ที่ปลายจมูกก็ไม่พุ่งมันงุ้มลง และต้องคอยเติมตลอด และแต่ละครั้งก็ได้รูปทรงไม่ค่อยเหมือนกัน ฉีดแต่ละทีก็เจ็บ ฉีดบ่อยๆกลัวผลกระทบในระยะยาวด้วย เลยตัดสินใจว่าเสริมไปเลยดีกว่า เจ็บตัวแค่ครั้งเดียว แล้วก็อยู่ได้ตลอด
ที่เลือกทำจมูกที่เอเมดคลินิก เพราะอยู่กับที่นี่มาเกือบ 3 ปีแล้ว เราก็เห็นมาตลอดว่าทางคลินิกเป็นอย่างไรบ้าง จริงๆก็อยากทำนานแล้วแต่ก็ยังไม่กล้า แรกๆฉีดฟิลเลอร์เอา พอฉีดบ่อยทุก 3-4 เดือนก็รู้สึกว่าไม่โอเคเท่าไหร่ ที่รูปทรงแต่ละครั้งไม่เหมือนกันเลย ก็ปรึกษาหมอว่าอยากทำจมูก อยากได้แบบลูกครึ่งโด่งๆ พุ่งๆ ก็ต้องใช้กระดูกอ่อนหลังหูด้วย แต่ที่เอเมดคลินิกได้นำเข้าเนื้อเยื่อสังเคราะห์เทียม ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่นำเข้ามาเพื่อใช้รองป้องกันจมูกทะลุร่วมกับการเสริมด้วยซิลิโคน โดยที่เราไม่ต้องเจ็บตัวสองที่ ก็เลยตัดสินใจทำ
ส่วนของการทำก็ต้องขูดฟิลเลอร์ ที่ฉีดมานาน 3-4 ปีออกก่อน ซึ่งคุณหมอบอกว่าของเธเองขูดไม่ยากเพราะเป็นฟิลเลอร์แท้ และตอนทำก็ไม่เจ็บเลย รู้สึกแค่ตอนฉีดยาชาเท่านั้น ก็เจ็บแค่ตอนฉีด แต่ตอนทำก็ไม่เจ็บครับ หมอก็เหลาซิลิโคนใส่ให้เราและก็ค่อยๆปรับให้ได้แบบที่เราชอบ น่าจะเอาเข้าเอาออก 5 รอบครับ กว่าจะได้โด่งๆพุ่งๆแบบที่ต้องการ พอทำเสร็จก็ขับรถกลับบ้านได้เลย ไม่เจ็บ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้ารู้แบบนี้คงทำไปนานแล้วไม่เสียเวลาฉีดฟิลเลอร์เลยครับ
เรื่องนี้ได้ปรึกษาหมอก่อนครับ เราก็มีความวิตกกังวลเหมือนกันว่าทำแล้วกลัวจะแย่ลงเหมือนกัน แต่หมอก็ให้คำปรึกษาดีละเอียดมากๆ จนเรามีความมั่นใจ และคิดว่ามันต้องออกมาดีกว่าเดิมแน่นอน
ตอนนี้เกือบจะ 3 เดือนแล้วครับ ส่วนใหญ่คนรอบข้างที่ไม่ได้สนิทมาก ในเฟซบุ๊คหรือในไอจี ในช่วงที่ทำมาใหม่ๆเค้าก็จะพูดว่าไปทำทำไม ของเดิมดีอยู่แล้ว ซึ่งเค้าไม่รู้ว่าจมูกเราก่อนหน้าเป็นการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งเราต้องไปฉีดบ่อยๆ เราก็ไม่ได้ตั้งสเตตัสหรืออธิบายอะไร มองว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญในชีวิตมากมายต้องมาแถลงอย่างเป็นทางการ แต่อย่างที่บอกก็คิดดีแล้ว ก็ต้องยอมรับกับผลที่ตามมา
พอผ่านไปสักพักมันเริ่มเข้าที่เค้าก็บอกว่า จมูกสวย เข้ามาถามทำที่ไหน? ซึ่งเราก็อยากจะบอกว่า การทำจมูกต้องให้เวลากับมันครับ ช่วงแรกๆจะบวมไม่เข้าที่ก็ทำให้มันจะดูแปลกๆ ไม่ใช่ทำเสร็จแล้วสวยเลย เราก็หาข้อมูลมาก่อนไม่ใช่อยู่อยากทำก็ทำเลย ต้องดูองค์ประกอบหลายอย่าง ฝีมือหมอ คลินิกได้มาตรฐาน ทำแล้วได้แบบที่เราชอบเราก็แฮปปี้ก็พอแล้วครับ
สิ่งแรกที่เปลี่ยนเลยก็คือหน้าตาเปลี่ยน เพราะทรงที่เราเลือกเป็นทรงฝรั่งที่โด่งไปเลยทำให้เราดูคมขึ้น ดูโตขึ้นก็ได้ลุคใหม่มาในแบบที่เราก็พอใจครับ และในมุมมองของเราในการทำงาน ไม่ว่าจะถ่ายรูปหรือออกกล้องคิดว่ามันโอเคขึ้นกว่าเมื่อก่อนครับ ไม่เคยเสียใจที่ตัดสินใจทำเลยครับ
ไม่ค่อยสนใจครับ เพราะเราทำอะไรเรารู้ตัวเองดี เราต้องมีสติ มีลิมิต รู้ว่าเราทำอะไรได้แค่ไหน ต้องไม่ทำเยอะจนเกินพอดี คนอื่นๆที่มีชื่อเสียงมากกว่าเราก็โดนไม่ใช่มีแค่เราที่โดนเม้าธ์ ยิ่งจากคนที่เราไม่รู้จักอยู่แล้วก็ยิ่งไม่ได้สนใจครับ แต่ต้องไม่ทำมากเกินไป จนกลายเป็นเสพติดศัลยกรรม
คิดว่ายังไม่ขึ้นขนาดนั้นนะครับ เราก็แค่พัฒนาไปตามยุคตามสมัยครับ หน้าต้องดี หุ่นต้องเป๊ะ ผิวต้องดี เราก็ต้องดูแลตัวเองเพื่องาน อย่างงานของเรารูปร่างหน้าตามันเป็นโอกาส สมัยนี้การแข่งขันมันสูง อายุเราก็มากขึ้นก็ต้องดูแลมากขึ้น แต่ไม่ถึงขั้นเสพติดครับ
ไม่กลัวเลย เพราะเรารู้ลิมิตของตัวเองว่าเราทำแค่ส่องกระจกแล้วมั่นใจมีความสุข ไม่ได้ทำเยอะแยะไปหมด ไม่ได้คอยมานั่งอ่านด้วยว่าใครจะพูดอะไร ก็พูดไปเถอะ เราไปห้ามเค้าไม่ได้ เอาที่เราสบายใจดีกว่าครับ ไม่ได้สนใจคำวิจารณ์ทางเนตจากคนที่ไม่ได้รู้จักกับเราจริงๆอยู่แล้วครับ
ยอมรับตามตรงเลยว่าก็มีครับ คนอาจจะถามว่ามีอะไรต้องทำอีกเหรอ ก็ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ยังเป็นฟิลเลอร์ที่ต้องคอยฉีดทุกประมาณ 4-5 เดือนครั้ง ก็คือคางครับ เดิมคางจะตัดและสั้น ฉีดแต่ละครั้งรูปทรงก็ไม่เหมือนเดิม หลังจากทำจมูกแล้วก็ปรึกษาที่เอเมดคลินิกแล้วคุณหมอก็บอกว่าทำได้จะผ่าด้านในซึ่งจะไม่มีแผลเป็นให้เห็น ก็คงอีกสักพักครับ น่าจะประมาณกลางๆเดือนหน้าครับ ถ้าทำแล้วเรียบร้อยยังไงก็จะมารีวิวให้ทางโดดเด่นแน่นอนครับ