การดูแลความสวยความงามเป็นเรื่องที่คู่กับผู้หญิงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถึงแม้ว่าโลกจะเปลี่ยนไปเท่าไหร่ผู้หญิงก็ไม่หยุดสวย ดูแลกันตามยุคตามสมัยยิ่งปัจจุบันวิฒนาการด้านความสวยความงามก้าวไกล ทำให้มีทางเลือกมากยิ่งขึ้นไปอีก อย่าง สมาชิกเว็บไซต์พันทิบดอทคอม ชื่อสตอร์เบอร์รี่เชอเบทส์ ได้ตั้งกระทู้เพื่อแชร์ประสบการณ์อัพสวยของตัวเองเพื่อเป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆ ที่กำลังจะทำศัลยกรรม โดยครั้งนี้เป็นการเขียนกระทู้รีวิว แชร์ประสบการณ์การทำศัลยกรรมคาง และเสริมจมูก ด้วยซิลิโคนปลายสปริง
โดยเนื้อหาในกระทู้ ระบุว่า “สวัสดีค่ะ เราชื่อกวางตุ๊งนะคะ จะมารีวิว การศัลยกรรมคาง และ จมูก กระทู้นี้เรียกว่า กระทู้แรกของกวางเลยก็ว่าได้ค่ะ อาจจะพิมพ์ผิดพลาด หรือ ตกหล่นยังไง ก็ขอประทานโทษไว้ล่วงหน้านะคะ งั้นมาเริ่มกันเลยนะคะ
ในช่วงนี้กระแส วีเชพมาแรงซะเหลือเกิน แถมในการทำงานของเรา ก็ต้องใช้หน้าตาเข้าสู้ ถ้าหน้าเล็กตามพิมพ์นิยม ดูเหมือนจะหากยากพอตัว หน้าสวยไม่พอ บางงานถึงขนาดถามยอดติดตาม กันเลยทีเดียว กวางก็ว่าโครงหน้ากวางโอเคแล้วนะ. แต่สู้ชาวบ้านเค้าไม่ค่อยจะได้เลย
แต่……ก็ยังไม่ได้ทำให้เรามีความรู้สึกอยากศัลยกรรมค่ะ เราเริ่มจากหาข้อมูล ตาม google นี่ละค่ะ กระแสหน้าวีมาแรง ทำให้มีตัวช่วยเพิ่มให้หน้าดู วี เยอะมากๆ
ไม่ว่าจะเป็น สายรัดกระชับใบหน้า ครีมต่างๆ และแน่นอนว่าต้องมี Botox ด้วยแน่ๆ บอกตรงๆว่าพวกครีมพวกสายรัดนี้ เราไม่ค่อยเชื่อนะ
เรื่อง Botox ( ขออนุญาตเรียกสั้นๆว่า โบ ) ที่เค้าว่าฉีดละวีเลย พอหาข้อมูลมาซักพักก็จัดเลยค่ะ ครั้งแรก ข้างละ 25 unit ถามว่าหน้าวีไหม
บอกเลยว่าไม่รู้สึกเปลี่ยนไปจากเดิม ทางคลีนิคแจ้งว่า ส่วนใหญ่ครั้งแรกไม่ค่อยลงหรอกค่ะ ต้องย้ำ !!!! ฉีดย้ำนั้นเองค่ะ เราก็เลยฉีดเพิ่มอีก 100 unit
ข้างละ 50 unit ลิฟกรอบหน้าด้วย ผ่านไป 2-3 สัปดาห์ เห็นการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยถึงน้อยมากเลยปรึกษาเพื่อนที่ เป็นเจ้าแม่เรื่องพวกนี้ นางบอกโบอย่างเดียวไม่วีหรอก ต้องฟิลเลอร์ด้วย เราก็เลยไปหาข้อมูลเลยจ้า
เพราะเป็นคนที่ค่อนข้างขี้กลัวแต่เราก็ทำค่ะ อยากหน้าอินเทรนด์กับเค้าบ้างเลยจัดไป 2 cc ผลคือ หน้าวีทันใจเลยจ้า แต่มันไม่จบค่ะ มันต้องฉีดเรื่อยๆ และเราฉีดทุก สองเดือน มันสลายไวมาก น่าจะเป็นเพราะชอบอาบน้ำร้อนด้วย และพอฉีดบ่อยๆก็เริ่มมีการไหลไปใต้คาง มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้
เหตุนี้จึงตัดสินใจศัลยกรรมเสริมคาง ปรับรูปหน้าเอา เพราะว่าฉีด หลายๆรอบมันก็หลายหมื่นอยู่ แถมไปเจอคุณหมอท่านนึง แนวนำให้ศัลยกรรมไปเลยดีกว่า เพราะการฉีดไม่เป็นผลดีในระยะยาว ( คนละที่กับที่ฉีดฟิลเลอร์นะคะ )
ก็หาข้อมูลจนมาเจอกับ คุณหมอธนยศ สูยะโพธ แต่คุณหมอมีรีวิวค่อนข้างน้อย แต่ในหลายๆ เคส บอกว่าคุณหมอดูแลคนไข้ดูมาก ไม่มีหลุด เอาใจใส่สุดๆ เลยลองเข้าพบและปรึกษา คุณหมอน่ารัก ใจดีแนะนำละเอียดมากๆ พี่ผู้ช่วยก็น่ารัก
คุณหมอให้ทำความเข้าใจก่อนว่า รูปกระดูกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การศัลยกรรมคางเหมาะกับผู้ที่มีคางถอย และผู้ที่มีปัญหาคางตัด
อันนี้เป็นรูปภาพที่ยืมมาจาก google เป็นการวางซิลิโคนด้านหน้า ในผู้ที่มีปัญหาคางถอย
การศัลยกรรมคางจึงมีสองแบบ แบบแรกคือการแก้ปัญหาคางถอย ด้วยการวางซิลิโคนไว้ด้านหน้า เพื่อที่จะให้คางยื่นออกมาด้านหน้า การศัลยกรรมในรูปแบบนี้
จะทำให้ได้คางที่สวยได้รูปเป็นธรรมชาติไม่ยาวมาก และแบบที่สองกรณีคางตัด คือการวางซิลิโคนด้านล่างคล้ายๆกับต่อคางคือหน้าจะดูยาวแต่จะไม่ธรรมชาติมาก
มันจะมีเหมือนรอยต่อระหว่างกระดูกกับซิลิโคน แต่ไม่มาก (กวางอธิบายตามแบบที่เข้าใจนะคะ หากผิดพลาดยังไงแจ้งได้ค่ะ)
ส่วนใหญ่จะนิยมเสริมด้านหน้ามากกว่าเพราะจะสวยเป็นธรรมชาติกว่า แต่เราอยากให้ดูยาวขึ้นด้วยเลยไว้กลางๆแล้วกัน ( คุณหมอว่าแบบไหนสวยตามใจเลยค่ะ )
ส่วนในเรื่องของแผลผ่าตัด จะมี 2 แบบค่ะ
ผ่าด้านนอกใต้คาง – ข้อดีคือแผลจะดูแลง่าย เหมาะกับผู้ที่ต้องการขูดซิลิโคลนเหลว เพราะการผ่าใต้คางจะทำให้ขูดได้เกลี่ยงกว่าผ่าด้านในปาก
ข้อเสียคือเป็นรอยแผลเป็นค่ะ
ส่วนแผลในปากจะบริเวณเหงือกตรงฟันล่าง – ข้อดีจะไม่เป็นแผลเป็นเนื่องจากผ่าด้านในปาก
ข้อเสียแผลจะดูแลได้ค่อนข้างยากกว่าต้องรักษาความสะอาดพอสมควร
เราเลือกแผลในปากค่ะ ไม่อยากเป็นแผลเป็น ขยันบ้วนปากบ่อยๆ เมื่อคุยกับคุณหมอเรียบร้อย เราก็เตรียมตัวขึ้นเขียงได้เลยค่ะ
อันนี้คือภาพ ก่อนและหลังเสริมโดยเป็นพัฒนาการของแต่ละวันเป็นระยะเวลาประมาณ 1 อาทิตย์ได้ค่ะ
ส่วนจมูกเราถ่ายรูปดูด้านข้างแล้วหน้าค่อนข้างแบนค่ะ พอคาง ประมาณ 2 อาทิตย์ ก็นัดเสริมจมูกต่อค่ะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ทำให้เสร็จทีเดียว
จมูกก็ทำที่เดิมค่ะ คุณหมอดูแลดีมาก ค่อนข้างประทับใจเลยขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ที่นี้เลยก็ว่าได้ แถมในการเสริมจมูกของคุณหมอเป็นเทคนิคเฉพาะ เรียกว่ามีที่เดียวเลยก็ว่าได้ คือ ซิลิโคนของคุณหมอจะเป็นซิลิโคนปลายสปริงค่ะ
ในการเสริมจมูก ของคุณหมอ จะเหลาซิลิโคน แบบ เคสต่อเคส แล้วเทคนิคการเหลาของคุณหมอจะเหลา ให้บริเวณปลายซิลิโคน บางมากๆ เพื่อให้คนไข้ได้จมูกหยดน้ำที่มากที่สุด ตามเนื้อจมูก โดย เจ้าปลายสปริงเนี้ยแหละ จะดันให้ เนี้ยปลายจมูกเราออกมาเป็นหยดน้ำ
เพื่อนๆ อาจจะมองภาพซิลิโคลน ไม่ออก กวางจะลงรูปให้ดูค่ะ โดยซิลิโคนของคุณหมอจะเป็นแบบใส ๆ เรียกว่าเกรดดีสุดเลย ส่วนสีอื่น จะเป็นที่คุณหมอถอดเป็นให้คนที่มาแก้ค่ะ
และเราก็ได้ความรู้เกี่ยวกับการแบ่งเกรด ของซิลิโคนมาได้ประมาณนี้ค่ะ ซิลิโคนเกรดที่ถูกสุด จะเป็น สีเทา
แบบปานกลางที่ใช้กันทั่วไป จะเป็น สีขาวขุ่น
แบบพรีเมียม จะเป็น สีใส (เป็นตัวที่คุณหมอใช้สั่งนำเข้ามาจากบราซิล )ถ้าข้อมูลผิดพลาดยังไงบอกได้นะคะ
ทรงจมูกขอกวางคุณหมอเลือกเป็นทรงสโลป ปลายหยดน้ำให้ค่ะ
อันนี้เป็นภาพคร่าวๆ นะคะ
โดยเสริมหลังทำคางได้ 2 อาทิตย์
ขออนุญาติจบการรีวิวโดยรูปล่าสุดถ่าย เมื่อวันที่ 29/5/59 นะคะ คางประมาณ 3 สัปดาห์ ส่วนจมูก 9 วัน
หลังจากนั้น กระของกระทู้มาอัพเดตหน้า โดยให้เห็นรูป คาง 1 เดือน จมูก 2 อาทิตย์
ส่วนรูปนี้ ….ลองแต่งตัวแบบจัดเต็มค่ะ
ขอขอบคุณ สมาชิกเว็บไซต์พันทิบดอทคอม นามว่า สตอร์เบอร์รี่เชอเบทส์
นายแพทย์ ธนยศ สูยะโพธ นายแพทย์ประจำ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล(ภาควิชาศัล
#DRTCLINIC
ที่อยู่ 35/194 หมู่บ้านมณียา ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงนวลจันทร์ กรุงเทพมหานคร
หมายเหตุ คลินิกอยู่ปากทางเข้าหมูบ้านมณี
website : http://www.drt-clinic.com/
Facebook :https://www.facebook.com/drta
เบอรติดต่อ 095-556-6691 LINE : cnxthailand11
