จากคดีนายแพทย์หนุ่มพลัดตกตึกสูง 4 ชั้น เสียชีวิต ที่อพาร์ตเมนต์ย่านลาดพร้าว เมื่อปี 2553 ตำรวจสรุปสำนวนเป็นคดีคนตกจากที่สูง แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมากว่า 4 ปี กลับปรากฏหลักฐานชิ้นใหม่ว่านายแพทย์หนุ่มผู้นี้อาจจะไม่ได้กระโดดจากตึกลงมาเอง มีข้อมูลที่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเหตุฆาตกรรม

33

คดีการเสียชีวิตของ นพ.ศรุต ทวีรุจนะ วัย 28 ปี แพทย์หนุ่มที่กำลังศึกษาด้านพยาธิวิทยา เมื่อปี 2553 ยังคงมีเงื่อนงำปริศนา เนื่องจากทางครอบครัวยังคงไม่เชื่อว่า แพทย์หนุ่มจะกระโดดตึกฆ่าตัวตายเองหรือเป็นอุบัติเหตุพลัดตกตึก ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เรียกประชุมหารือ พร้อมกับสั่งรื้อคดีดังกล่าวขึ้นมาสอบสวนใหม่ หลังจากที่ สน.ลาดพร้าว เคยได้สรุปสำนวนเป็นคดีคนตกจากที่สูง

กองพิสูจน์หลักฐาน ได้หาหลักฐานเกี่ยวกับคดีนี้เพิ่มเติม โดยใช้กล้องสามมิติจำลองภาพเหตุการณ์ ส่วนบาดแผลที่พบอยู่บนแผ่นหลังของผู้เสียชีวิตก็ขัดต่อแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้น ที่ระบุว่าผู้เสียชีวิตพุ่งหลาวลงมาจากระเบียง อีกทั้งยังพบว่าที่มือทั้ง 2 ข้างของผู้เสียชีวิต มีคราบเปื้อนสีขาวติดอยู่ เชื่อว่าอาจจะเป็นการเกาะหรือเหนี่ยวรั้ง เพื่อไม่ให้ตกลงไปข้างล่าง

ขณะที่ มารดาของ นพ.ศรุต ในวันนี้ยังคงรู้สึกโศกเศร้าและทำใจยอมรับการเสียชีวิตของลูกชายไม่ได้ เพราะยังคงรู้สึกแคลงใจในประเด็นการเสียชีวิตครั้งนี้อยู่ ที่ผ่านมาเคยร้องขอความเป็นธรรมไปตามหน่วยงานต่างๆ กว่า 27 ครั้ง เพราะไม่เชื่อว่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากไม่พบเหตุแรงจูงใจและลูกชายไม่มีปัญหาความขัดแย้งใดๆ ส่วนลักษณะการตกตึกกับจุดที่พบศพมีความผิดปกติไปจากความเป็นจริง เนื่องจากร่างลูกชายตกห่างออกไปจากตึกราวๆ 3 เมตร จึงสงสัยว่าอาจจะเกิดจากการกระทำของผู้อื่น

อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมได้พิสูจน์ตรวจสอบบาดแผลตามร่างกายของ นพ.ศรุต พบว่าไม่ใช่ร่องรอยบาดแผลที่เกิดจากการตกลงมาจากที่สูง อีกทั้งยังตรวจพบลายนิ้วมือแฝงที่ระเบียงห้องพัก แต่ยังไม่ได้ทำการพิสูจน์ว่าเป็นลายนิ้วมือผู้ใด ถึงแม้จะมีเงื่อนงำน่าสงสัย แต่ก็ไม่มีพยานชี้ชัดว่ามีผู้จงใจทำร้ายผู้เสียชีวิต จึงได้ยุติการสอบสวนและไม่รับเป็นคดีพิเศษ

ผู้เชี่ยวชาญฯ ชี้ว่า คดีดังกล่าวไม่น่าจะเป็นการกระโดดตึกเพื่อฆ่าตัวตาย แต่อาจจะเกิดจากความเจตนาและไม่เจตนา ซึ่งเป็นคดีความผิดทางอาญาที่ซับซ้อน ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบพยานหลักฐานชิ้นใหม่ ที่คาดว่าการเสียชีวิตของ นพ.ศรุต อาจจะเป็นเหตุฆาตกรรม

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก สำนักข่าวไทย

 

เรื่องน่าสนใจ