หลังจากข่าวการเสียชีวิตของพลทหารค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ ที่ป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) หรือไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้เกิดปรากฏการณ์อย่างหนึ่งในสังคม นั่นคือความสับสนในไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก และความตื่นกลัวว่าจะกลับมาระบาด ทั้งๆ ที่สามารถป้องกันได้อย่างง่ายดาย
ณ ขณะนี้ในประเทศไทย จึงยังไม่พบโรคไข้หวัดนกกลับมาระบาดอีก และในกรณีของทหารที่เสียชีวิตใน จ.เชียงใหม่ พบว่าป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เคยเกิดมาแล้ว และไม่ได้มีการกลายพันธุ์รุนแรง เหมือนที่หลายคนเข้าใจ ที่สำคัญไข้หวัดนกก็ไม่ได้ติดจากคนสู่คนทุกสายพันธุ์ โดยมีรายงานว่า สายพันธุ์ที่สามารถติดมาสู่คนได้ คือ สายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1 และ สายพันธุ์เอช 7 เอ็น 9 นอกนั้นเป็นสายพันธุ์ที่พบในสัตว์ปีกยังไม่มีรายงานมาสู่คน อาทิ ไวรัสชนิด เอช 5 เอ็น 2, เอช 5 เอ็น 3, เอช 5 เอ็น 9, เอช 7 เอ็น 2, เอช 7 เอ็น 3 และเอช 7 เอ็น 7 ส่วนสายพันธุ์เอช 10 เอ็น 8 ที่พบการติดเชื้อในจีน แม้จะพบติดเชื้อในคนได้ แต่ไม่มาก จึงยังไม่น่ากังวล
“ไข้หวัดนก ณ ขณะนี้ ขอยืนยันว่ายังไม่พบในประเทศไทย หลายคนอาจกังวลว่าหากไปประเทศจีน หรือประเทศที่พบการระบาดจะติดเชื้อหรือไม่ ล่าสุดองค์การอนามัยโลกยังไม่มีประกาศสั่งห้าม แต่ให้ระมัดระวัง โดยหากไปประเทศที่พบการระบาดควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน หรือสัมผัสสัตว์ปีก หากรับประทานต้องมั่นใจว่าปรุงสุกจริง แต่ที่น่ากังวลในประเทศไทย คือ โรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งพบเป็นประจำทุกปี เรียกว่าเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งไข้หวัดใหญ่นั้นมีหลายสายพันธุ์เช่นกัน แต่ที่หลักๆ คือ เอช 1 เอ็น 1 หรือหวัดใหญ่ 2009 สายพันธุ์เอช 3 เอ็น 2 และสายพันธุ์บี (B) โดยขณะนี้ยังไม่พบสายพันธุ์ใหม่ หรือการกลายพันธุ์แต่อย่างใด” รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าว
ข้อควรระวังเบื้องต้นเพื่อห่างไกลจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H7N9
Credit : http://minebeauty.com, matichon.com