เป็นเรื่องปกติใช่ไหม? ที่เวลาเราไปทานอาหารญี่ปุ่น ไม่ว่าจะร้านอาหารที่ไหนๆ น้ำซุปที่เสิร์ฟจะเป็น “มิโซะซุป” (Miso Soup หรือ Misoshiru) ตลอด ซึ่งส่วนใหญ่จะมีน้ำซุปที่ทำจากมิโซะ น้ำสีขุ่นๆ มีเต้าหู้ชิ้นน้อยลอยละล่อง รวมถึงเจ้า “สาหร่าย” สีเขียว แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมต้องใส่ ทำไมต้องมี? “สาหร่าย” ในมิโซะซุปด้วย
จะเพื่อเพิ่มสีสันของน้ำซุปให้น่ากินขึ้น หรือจะช่วยให้ซุปอร่อยขึ้น เอ๊ะ! หรือเพราะมันเป็นสูตรดั้งเดิมที่มีตั้งแต่โบราณนู้นนนน ว่ามิโซะซุปต้องมี “สาหร่าย” แค่นั้นเอง
เดากันไปเรื่อยจะบอกว่า…..ผิดหมด? เหตุผลที่ใส่สาหร่ายลงในซุปมิโซะนั่นก็เพราะ “สาหร่าย” ที่อยู่ในซุปจะทำหน้าที่ช่วยรักษาสมดุลให้ร่างกายของคนที่กิน เนื่องจากใน มิโซะซุป นั้นมีปริมาณโซเดียมสูง ซึ่งสารอาหารในสาหร่ายที่ใส่นั้นจะช่วยลดระดับความดันเลือด และที่ทำสำคัญคือ ลดระดับปริมาณโซเดียมในร่างกายที่จะได้รับเข้าไป เพื่อให้ร่างกายสมดุลไม่ให้เราได้รับโซเดียมในปริมาณที่มากเกินไปจากมิโซะะที่มีโซเดียมสูง เหมือนมีหยิน ก็ต้องมีหยาง มีร้อน ก็ต้องมีเย็น ถึงจะสมดุลอ่ะค่ะ (คนญี่ปุ่นนี่ช่างคิดใส่ใจทุกรายละเอียดอย่างจริงๆ)
ตอนยังไม่แช่น้ำ หน้าตาจะเป็นแบบนี้
เมื่อแช่น้ำแล้ว หน้าตาจะเป็นแบบนี้
ฉะนั้นคงเข้าใจแล้วนะว่า ทำไม? มิโซะซุป ถึงต้องใส่ “สาหร่าย” ลงไปด้วยทุกครั้ง ถ้างั้นคราวหน้าที่กิน มิโซะซุป เข้าไปก็อย่าไปบ่น เจ้าสาหร่ายสีเขียว ว่าเหมือนตะไคร่น้ำเลย เพราะมันเป็นอัศวินคอยป้องกันโซเดียมให้กับร่างกายเราเลยนะจ๊ะ