ที่มา: Khaosod Online

จากกรณีเหตุเตาไฟฟ้าต้มชาบูระเบิดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน ถูกกระจกบาดตามใบหน้าและร่างกาย เมื่อสอบถามพนักงานของทางร้านยืนยันว่าในช่วงที่เกิดระเบิดพนักงานยังไม่ได้เสียบปลั๊กไฟของเตาไฟฟ้า เพราะลูกค้าเพิ่งสั่งอาหารทางร้านก็ได้ยกเตาไฟฟ้าออกไปวางไว้ที่โต๊ะ 

โดยทางบริษัทที่จำหน่ายเตาไฟฟ้าไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการติดต่อกับทางเจ้าของร้านที่จำหน่ายเตาไฟฟ้าดังกล่าว ที่จ.นครราชสีมาโดยตรงแล้ว และได้ประสานงานกับเจ้าของร้านชาบูว่าจะชดเชยค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บทั้งหมด พร้อมส่งทีมงานไปตรวจสอบหาสาเหตุเตาไฟฟ้าหม้อต้มชาบูที่ระเบิด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว เดินทางไปร้านชาบูดังกล่าว โดยพบนางธนัญญา มหาชูภานนต์ เจ้าของร้าน และพนักงาน กำลังจัดเตรียมอาหารไว้ขายให้กับลูกค้าในช่วงตอนเย็น โดยอาหารที่จัดเตรียมเป็นจำพวกอาหารทะเล อาทิ กุ้ง หอย ปู และปลา 

97

นางธนัญญา กล่าวว่า ขณะนี้ทางร้านเปลี่ยนจากการใช้เตาไฟฟ้าไปใช้เตาถ่านแทน เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ทางร้านยังเปลี่ยนไปขายอาหารทะเลปิ้งย่าง ซึ่งหากได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีก็จะยกเลิกการขายชาบู และเปลี่ยนไปขายอาหารทะเลปิ้งย่างแทน

ต่อมาเวลา 13.30 น. นายยศกฤศ อาสนา ตัวแทนจาก บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเตาไฟฟ้า เดินทางไปพบกับนางธนัญญา เจ้าของร้านชาบูที่เกิดเหตุ และสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมเข้าเยี่ยมอาการของนางบังอร แจ่มจันทร์ อายุ 59 ปี แม่เจ้าของร้านที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าว โดยตัวแทนของบริษัทฯ กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับขอเรียกคืนเตาไฟฟ้ารุ่นที่ทางร้านซื้อมาทั้งหมด 10 เครื่อง และเปลี่ยนเตาไฟฟ้ารุ่นใหม่ให้แทน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังขอเป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน รวมทั้งรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น

98

อย่างไรก็ตาม ทางตัวแทนของบริษัทฯ ยังไม่สามารถระบุได้ว่า สาเหตุที่เตาไฟฟ้าระเบิดขึ้นนั้นเกิดจากสาเหตุใด เนื่องจากเตาไฟฟ้าเครื่องที่เกิดเหตุระเบิด พนักงานสอบสวนส่งไปตรวจสอบที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะทราบผล ซึ่งเมื่อทางตำรวจตรวจสอบเสร็จแล้ว ทางบริษัทฯ ก็จะนำเตาไฟฟ้าที่เกิดเหตุระเบิดกลับไปตรวจสอบที่กรุงเทพฯ เช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 3 วันจึงจะทราบผล

ด้านพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้นำเตาไฟฟ้าที่ระเบิดส่งไปที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญตรวจหาสาเหตุของการระเบิด คาดว่าจะรู้ผลภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงจะนำผลการตรวจสอบมาประกอบสำนวนการสอบสวน เพื่อพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ใดบ้าง ทั้งนี้ ทางตำรวจได้รับการติดต่อจากทางตัวแทนบริษัทฯ ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าดังกล่าวแล้ว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งกับตัวแทนบริษัทฯ ว่า คงต้องรอให้ทางตำรวจตรวจสอบเสร็จสิ้นก่อน จึงจะสามารถนำเตาไฟฟ้าที่เกิดเหตุกลับไปตรวจสอบได้

เรื่องน่าสนใจ