เรียบเรียงโดย โดดเด่นดอทคอม
ภาพจาก bloggang
หากพูดถึง น้ำพริกนั้น มีหลายชนิด แต่ในที่นี้จะกล่าวถึงน้ำพริกเนื้อปู กินคู่กับผักสดจัดว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์ สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักได้ดีอีกชนิดหนึ่ง
วัตถุดิบหาง่ายไม่ยุ่งยาก และเหมาะกับคนที่ไม่ชอบกลิ่นกะปิ เพราะน้ำพริกสูตรนี้ไม่มีส่วนผสมของกะปิ ผักสดที่กิน คู่กันก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ เช่น ผักกาดขาว แตงกวา มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว เป็นต้น
การเลือกเนื้อปูควรเลือกที่สด ไม่มีกลิ่นเหม็น เนื้อสีขาว ถ้าจะให้ดีควรซื้อปูเป็นตัวๆ นำมานึ่งแล้วแกะเองจะดีกว่า
ส่วนผักเมื่อซื้อมาจากตลาดแล้วควรแช่น้ำละลายด่างทับทิมทิ้งไว้สักครู่ โดยเฉพาะผักกาดขาวให้เด็ดเป็น ใบๆ แล้วค่อยแช่ เราก็จะได้ผักที่สะอาดปราศจากเชื้อโรค กินได้อย่างสะดวกใจ รสชาติของน้ำพริกจะมีรสเปรี้ยวนำ ตามด้วยเค็ม และหวานนิดๆ
ส่วน คุณค่าโภชนาการของน้ำพริกเนื้อปูเมื่อกินกับ ข้าวสวย ๓ ทัพพี ให้พลังงานประมาณ ๓๕๑ กิโลแคลอรี
ซึ่งจัดว่าเป็นอาหารที่ให้พลังงานน้อย ให้โปรตีนค่อนข้างสูง (ผู้ใหญ่ความต้องการโปรตีนใน ๑ วัน คือ ๑ กรัมต่อน้ำหนักตัว ๑ กิโลกรัม เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักตัว ๕๐ กิโลกรัม ควรได้รับโปรตีนจากอาหาร วันละ ๕๐ กรัม)
และให้ไขมันต่ำมาก โดยพลังงานที่มาจากไขมันมีเพียงร้อยละ ๔ เท่านั้น โดยทั่วไปแนะนำว่าในอาหาร ๑ มื้อ พลังงานที่มาจากไขมันไม่ควรเกินร้อยละ ๓๐ ของพลังงานทั้งหมด
ดังนั้น ข้าวน้ำพริกเนื้อปูจึงจัดว่าเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดหรือควบคุมน้ำหนักตัว สามารถกินได้อิ่มใน ๑ มื้อ และให้คุณค่าสารอาหารที่ดี
โดยให้แคลเซียมประมาณร้อยละ ๒๐ และให้ธาตุเหล็กประมาณร้อยละ ๑๖ ของปริมาณที่แนะนำให้กินในหนึ่งวัน ให้ใยอาหารร้อยละ ๑๔ (แนะนำให้กินใยอาหาร วันละ ๒๕ กรัม) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณผักที่กินด้วย
สำหรับคนทั่วไปที่ไม่จำเป็นต้องจำกัดพลังงาน ข้าวน้ำพริกเนื้อปูอาจให้พลังงานไม่เพียงพอใน ๑ มื้อ ดังนั้น อาจกินร่วมกับอาหาร ขนม ผลไม้ต่างๆ เพื่อเป็นการเพิ่มพลังงานและสารอาหารชนิดอื่นๆ ให้เพียงพอ กับความต้องการของร่างกายแต่ละคน