ลาซาด้า ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัวไลน์แอคเคานท์ (LINE Account)  “LAZADA.co.th” สร้าง Brand Engagement เตรียมมอบสิทธิพิเศษต่างๆผ่านไลน์  แอคเคานท์  พร้อมส่งสติกเกอร์น้อง LAZ : The Happy Lion  ให้นักช้อปชาวไทยได้ดาวน์โหลดฟรี ชี้ีพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต (Mobile Commerce)  ในไทยเติบโตต่อเเนื่อง

LAZ

นายริคคาร์โด บาซิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ปัจจุบันลาซาด้ามีสมาชิกในไลน์แล้ว 2.7 ล้านคน หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น และในปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 4.5 ล้านคน

โดยลาซาด้าจะใช้ไลน์แอคเคาท์นี้เป็นช่องทางหนึ่งในการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ ผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ซึ่งเราจะส่งข่าวสาร  รวมถึงมอบโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าลาซาด้าที่เป็นสมาชิก LAZADA.co.th  บนไลน์แอคเคาท์ให้ทราบก่อนใคร นอกจากนี้ยังออกแบบ LAZ ให้เป็นตัวแทนแบรนด์ของเรา และสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นลาซาด้า ซึ่งมีความสดใส ร่าเริง มั่นใจ และมีทัศนคติที่คิดบวก”

5617

  นายริคคาร์โด กล่าวเพิ่มเติมว่า  เพื่อตอบสนองการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ ลาซาด้าจึงพยายามพัฒนาช่องทางการสื่อสารเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่นิยมใช้อุปกรณ์สื่อสารทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมียอดการช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านสมาร์์์์์ทโฟนและแท็บเล็ตในสัดส่วน 50 % โดยลูกค้าลาซาด้านั้นสามารถซื้อสินค้าได้ผ่านลาซาด้าแอพพลิเคชั่นส์ ที่รองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แอปเปิ้ล และวินโดว์โฟน

5615

 

รวมถึงโมบายไซต์ ที่ถือได้ว่าเป็นจุดแข็งสำคัญ เพราะการพัฒนาช่องทางต่างๆให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงลาซาด้าได้ในทุกช่องทางนั้นต้องใช้ทั้งการลงทุนและทีมงานที่แข็งแกร่งเพื่อเชื่อมโยงทุกช่องทางไว้ด้วยกัน   และสำหรับแอพพลิเคชั่นส์ยอดนิยมอย่างไลน์นั้นมีผู้ใช้มากกว่า 29 ล้านรายซึ่งถือว่ามากเป็นลำดับที่ 3 ของโลกเลยทีเดียว ซึ่งการมีไลน์แอคเคาท์นั้นช่วยเพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ทั้งการค้นหาคำว่า “Lazada “  ผ่านเว็บไซต์กูเกิ้ล,การเข้าสู่เว็บไซต์แบบ Direct  Traffic   และยอดแอพพลิเคชั่นส์ของลาซาด้าเพิ่มมากขึ้น 40 % ไลน์จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยส่งเสริมลาซาด้าได้เป็นอย่างดี”

Lazada Group  เปิดให้บริการในประเทศอินโดนีเชีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์  เวียดนาม  และประเทศไทย  โดยในปัจจุบันมีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ไม่ซ้ำกัน (unique visitor) กว่า 2,000,000 ราย เพิ่มอย่างต่อเนื่องจากสามเดือนที่แล้วซึ่งมีจำนวน มีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ไม่ซ้ำกัน (unique visitor)  1,000,000 ราย  ซึ่งสำหรับประเทศไทยนั้นลาซาด้ามีลูกค้าจากในกรุงเทพฯและปริมณฑณประมาณ  30% – 40 %

ส่วนที่เหลือเป็นลูกค้าจากต่างจังหวัด โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง คือ สินค้ากลุ่มเครื่องสำอางค​์  อันดับสองคือเครื่องใช้ภายในครัวเรือน และ อันดับที่สาม คือ กลุ่มมือถือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตและอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ   ในอนาคตลาซาด้าจะพัฒนาสินค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น  พร้อมกับเปิดตัวสินค้าในกลุ่มแฟชั่น และแบรนด์  LZD (แอล แซส ดี)   แบรนด์แฟชั่นจากลาซาด้าต่อไป

นายริคคาร์โดกล่าวทิ้งท้ายว่าตลาดอีคอมเมิรซในประเทศไทยจะเติบโตอย่างมากเพราะในปัจจุบันสัดส่วนอีคอมเมิรซในเมืองไทยคิดเป็น  1%  จากการซื้อขายสินค้าออนไลน์ทั่วโลก ขณะที่ในประเทศจีน อยู่ที่ 8% หรือในกลุ่มประเทศในยุโรปที่มีซื้อสินค้าออนไลน์มากกว่า 10 %

ซึ่งคาดการณ์ว่าอีคอมเมิรซในไทยจะเติบโตได้เทียบเท่าประเทศจีน เนื่องจากจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนและอินเตอร์เนตในประเทศไทยมีจำนวนเท่ากับกาใช้้อินเตอน์เนตในประเทศจีนแล้วในขณะนั้น โดยมีปัจจัยส่งเสริมคือ  ความต้องการของผู้บริโภคที่มีความต้องการในการซื้อสินค้าอยู่แล้ว และบทบาทของสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตที่ราคาถูกลง ทุกคนเป็นเจ้าของได้  พร้อมกับการเติบโตของอินเตอร์เนต และ 4G ในประเทศไทย และนโยบายที่ภาครัฐส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล ด้วย

เรื่องน่าสนใจ