กลายเป็นเทรนด์ที่ฮิตระเบิดชนิดต่อแถวกันเลยทีเดียวกับ กระแสร้าน ‘พระเจ้าช่วยกล้วยทอด’ ที่ขายอยู่บนรถไฟฟ้า BTS ‘สถานีศาลาแดง’
คุณแวว ธีรวัลคุ์ ปังศรีวงศ์ สาวสวยที่ชอบกินกล้วยทอดมาก เจ้าของแบรนด์ ‘พระเจ้าช่วยกล้วยทอด‘ เล่าถึงสูตรความอร่อยกรอบว่า มาจากคุณป้าร้านกล้วยทอดชื่อดัง (คุณป้าบอกว่า ได้สูตรกล้วยทอดสุดอร่อยนี้ จากความฝันที่เทวดามากระซิบบอก) ที่คนต่อแถวกันมากมายใน จังหวัดระยอง ที่คุณน้ามักจะไปต่อแถวซื้อมาฝาก และทุกครั้งที่มาถึงมือเรา ก็ยังกรอบและอร่อยเสมอ ในที่สุดก็เลยอ้อนวอนคุณป้าอยู่นาน จนคุณป้าใจอ่อนยอมสอน โดยตนและหุ้นส่วนเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ไปเรียนที่ จ.ระยอง อยู่นานหลายเดือน ก็มาคิดชื่อร้าน ออกแบบ และตระเตรียมความเรียบร้อยอยู่นาน จนกระทั่งร้านนี้เปิดขึ้นมา
พร้อมกันนี้ เธอยังได้นำสูตรความอร่อยมากระจาย ส่วนตัวคิดว่าเป็นเมนูง่ายๆ ใครทอดก็ได้ รู้แล้วจะหนาว เพราะในนั้นมีความพิเศษซ่อนอยู่มากมาย ตั้งแต่วัตถุดิบ ส่วนผสม วิธีการทอด กระทั่งช่วงเวลา องศาในการหย่อนกล้วยอย่างไรให้กรอบอร่อย เรียกได้ว่าคุ้มค่าเกินราคาที่เสียไปแน่นอน
คุณแวว เจ้าของร้านสุดสวย
ส่วนผสม
1. กล้วยอบน้ำผึ้งชั้นดี ที่สำคัญกล้วยต้องไม่นิ่มแฉะจนเกินไป
2. แป้งสาลีชั้นดี แป้งมัน ผสมกันหลายยี่ห้อ เป็นสูตรลับ
3. น้ำตาลทรายชั้นดี
4. กะทิชั้นดี
5. มะพร้าวขูด
6. น้ำปูนใส
7. น้ำเปล่า
8. เกลือ
9. น้ำมันชั้นดี
ตั้งน้ำมันก่อนทอด
วัดอุณหภูมิก่อนทอด
วิธีทำ
เตรียมภาชนะสำหรับผสมแป้ง จากนั้นนำของแห้งทั้งหมดผสมเข้าด้วยกัน (แป้งสาลี, แป้งมัน, น้ำตาลทราย, เกลือ, มะพร้าว) คนเบาๆ ให้ส่วนผสมเข้ากัน หลังจากนั้นก็ค่อยๆ เติมน้ำปูนใส กะทิ และน้ำเปล่า พร้อมกับคนส่วนผสมไปเรื่อยๆ จนเข้ากันดี ที่สำคัญอย่าให้เหลว หรือข้นจนเกินไป นำส่วนผสมปิดฟิล์มพลาสติกกันอากาศ พักไว้ในตู้เย็น 30 นาที
มาถึงส่วนผสมที่เป็นพระเอกอย่าง กล้วยอบน้ำผึ้งชั้นดี ก่อนใช้จะต้องนำมาผึ่งแดดให้แห้งก่อน 1 แดด เพื่อให้กล้วยแห้งพอดีสำหรับการนำไปทอด จากนั้นนำมาหั่นให้ได้ขนาดตามต้องการ
ใช้กระทะตั้งไฟระดับปานกลาง ต้องใช้น้ำมันใหม่เสมอในแต่ละครั้ง หลังจากนั้นเมื่อน้ำมันร้อนได้ที่นำกล้วยชุบแป้งลงไปทอด กล้วยที่ได้ที่จะลอยขึ้นมาแล้วมีสีเหลืองนวล ยกใส่ตะแกรงที่เตรียมไว้รอให้สะเด็ดน้ำมัน
ดูซิ น่ากินมาก
สักถุงแล้วจะประทับใจ
อ้อ ที่สำคัญที่ทำให้คนกินต้องรอนิดหน่อยก็คือ ทอดไม่ทัน เพราะสามารถทำได้ครั้งละ 20 ชิ้นเท่านั้นเอง อีกทั้งคนทอดต้องวัดอุณหภูมิให้คงที่ มันจึงออกมากรอบ อร่อย อย่างกับต้นฉบับ ราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด 30 บาทเท่านั้นเอง.
