วัณโรคหลังโพรงจมูก สาเหตุคร่าชีวิต น้ำตาล The Star 5 ซึ่งในกรณีนี้มีโอกาสติดต่อกันได้น้อยจากสถิติของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2560 พบคนไทยเป็นวัณโรคประมาณ 80,000 คนจากประชากร 69 ล้านคน โดยร้อยละ 83 จะตรวจพบที่ปอดร้อยละ 17 ตรวจพบนอกปอด
วัณโรคหลังโพรงจมูก สาเหตุคร่าชีวิต น้ำตาล The Star 5
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล รายงานผลการตรวจวินิจฉัยชิ้นเนื้อหลังโพรงจมูก ของ นางสาวบุตรศรัณย์ ทองชิว หรือ น้ำตาล เป็น วัณโรคหลังโพรงจมูก
- คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ขออนุญาตส่องกล้องเข้าไปดูบริเวณหลังโพรงจมูก
และพบบริเวณเยื่อบุหลังโพรงจมูกมีสีผิดปกติไป จากปกติขนาดประมาณ 0.5 – 1 ซม.
จึงตัดชิ้นเนื้อบริเวณดังกล่าว เพื่อนำมาตรวจวินิจฉัยทางพยาธิวิทยาหาสาเหตุการเสียชีวิต
- ระหว่างตัดชิ้นเนื้อพบมีเลือดไหลออกมา หลังจากย้อมชิ้นเนื้อ พบว่าเข้าได้กับวัณโรคแต่ไม่พบเชื้อ
- จึงได้ทำการตรวจอีกวิธีหนึ่งที่เรียกว่า PCR (Polymerase Chain Reaction)
คือการตรวจหา DNA ของเชื้อวัณโรคได้ผลเป็นบวก (positive)
- ผลการตรวจ PCR ดังกล่าวและผลการตรวจชิ้นเนื้อจึงบ่งชี้ว่า
มีเชื้อวัณโรคหลังโพรงจมูก ซึ่งในกรณีนี้มีโอกาสติดต่อกันได้น้อย
- วัณโรคหลังโพรงจมูก พบว่าผู้ป่วย 1 ใน 3 อาจไม่มีอาการใดๆ
และประมาณร้อยละ 70 มีต่อมน้ำเหลืองที่คอโต หรือมีก้อนบริเวณหลังโพรงจมูก
- เราพยายามย้อนถามประวัติผู้ป่วย แต่ไม่พบว่า มีอาการอะไรเลย
ซึ่งก็เหมือนกับผู้ป่วยวัณโรคที่ไม่มีอาการก็ไม่ได้ไปตรวจ โดยจุดที่เกิดวัณโรค
เป็นตำแหน่งที่มีเส้นเลือดเยอะ เมื่อมีการอักเสบ ก็จะมีการฉีกขาดได้ง่าย
- ไม่เคยมีรายไหนในโลกที่มีเลือดออกเยอะแบบนี้
……………………………………………………………………………………
เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องทำคือ ควรตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี หากมีอาการผิดปกติระยะเวลาหนึ่ง เช่น น้ำหนักลด โดยไม่ทราบสาเหตุ เบื่ออาหาร มีไข้ต่ำๆ คลำได้ก้อนผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ
เนื้อหาโดย Dodeden.com