สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ‘เทสโก้‘ มีแผนขายกิจการในไทย และประเทศอื่น ๆ เพื่อระดมทุนแก้วิกฤตให้กับบริษัทแม่ ด้าน ‘วอร์เร็น บัฟเฟตต์‘ เทขายหุ้น ‘เทสโก้’ ทิ้ง 245 หุ้น ซึ่งนายเดฟ ลูว์อิส ซีอีโอของบริษัทเทสโก้ เจ้าของธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ในอังกฤษ เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างพิจารณาการขายสินทรัพย์ในอังกฤษ, ไทย และในประเทศอื่นๆ
ถึงแม้ว่านายเดฟจะเพิ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งได้เพียง 6 สัปดาห์เท่านั้น เนื่องจากต้องการระดมเงินทุนเพื่อกอบกู้กิจการเทสโก้ ที่มีการดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 95 ปี ให้รอดพ้นจากวิกฤติครั้งร้ายแรงที่สุด
โดย เทสโก้ เป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่อันดับ 3 ของโลก แต่กลับมียอดขายตกต่ำลง จนถึงจำเป็นที่จะต้องระดมทุน เพื่อรับมือกับหนี้สิน และยอดขาดดุลเงินบำนาญที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงเทสโก้ยังจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องต้นทุนของแผนฟื้นฟูยอดขายด้วย
ด้านสำนักข่าว ‘เอเจนซี่ย์‘ รายงานข่าวว่า วอร์เร็น บัฟเฟตต์ วัย 84 ปี ตัดสินใจเทขายหุ้น ‘เทสโก้’ เกือบทั้งหมด 245 ล้านหุ้น ที่เค้าถือครองผ่าน ‘เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์‘ ตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา
โดยวอร์เร็น บัฟเฟตต์ ให้เหตุผลว่า การตัดสินใจของเขาในการเข้าซื้อหุ้นของเทสโก้ ถือเป็นวามผิดพลาดอันใหญ่หลวง และเป็นการลงทุนที่โง่เขลา ซึ่งการเทขายหุ้นของวอร์เร็น บัฟเฟตต์ มีขึ้นหลังจากที่เทสโก้ประสบปัญหาอย่างหนักในการแข่งขันกับผู้ค้าปลีกรายอื่นๆ ในตลาดที่จำหน่ายสินค้าในราคาที่ถูกกว่าเทสโก้
ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาหุ้นของเทสโกยังคงดิ่งเหวลงอย่างต่อเนื่องเกินกว่า 50% ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา จากผลของยอดขายที่ตกต่ำ และการรายงานตัวเลขผลประกอบการที่ผิดพลาด ส่อเจตนาทุจริต จนสร้างความไม่มั่นใจให้กับนักลงทุนทั่วโลก และกำลังถูกทางการอังกฤษสอบสวนถึงเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว