เป็นเหตุการณ์ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อคุณ @ดีเจจุด สงขลา ได้โพสต์ภาพและคลิป โดยระบุว่า นร.เลือดอาบ!!..ฝีมือตำรวจจับมอเตอร์ไซค์ กระชากผมน้อง…นึกว่าจะหนี (15 ม.ค.60)
เหตุเกิดที่บริเวณหน้าหอนาฬิกา จราจรทำงามหน้า ทำเกินกว่าเหตุ เก่งนะกับนักเรียนหญิงน่าสงสารน้องนักเรียนคนนี้…นร.หญิงซ้อน 3 ตำรวจเรียกให้จอด กำลังจะจอด เจอจราจร กระชากผม เนื่องจากนึกว่าจะหนี เลยทำให้ล้มศรีษะฟาดกับเสาไฟฟ้า..หลายคนเห็นบ่อย ผมก็เคยเห็นกับตาพอเห็นเหยื่อมา กระโดดออกมาตะครุบ หากรถเบรคไม่ทันก็ชน คนชนผิดอีก เวรกรรม #ทั้งนี้_โปรดใช้วิจารณญาณ
อย่างไรก็ตามล่าสุดพ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ จันทร์สว่าง สว.จร.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคนดังกล่าวไม่ได้กระชากผมจนรถจยย.ของนักเรียนหญิงล้มคว่ำได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.หาดใหญ่ ได้ตั้งด่านกวดขันวินัยจราจรบริเวณที่เกิดเหตุ ขณะนั้นเห็นว่ามีรถจยย.ขับมา 2 คัน เป็นนักเรียนทั้งหมดและไม่มีใครสวมหมวกกันน็อก โดยคันแรกเป็นนักเรียนชายซ้อน 2 ส่วนคันหลังเป็นนักเรียนหญิงซ้อน 3 มา และได้ขี่รถจยย.ฝ่าไฟแดง
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นจึงพยายามเดินเข้าไปเพื่อเรียกให้หยุดรถเพราะทำผิดกฎหมาย ซึ่งรถจยย.คันแรกสามารถหลบออกไปได้ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวเดินเข้าไปถึงรถจยย.ที่นักเรียนหญิงซ้อน 3 มา พอดี และยกมือเพื่อจะกันให้หยุดรถ นักเรียนหญิงจึงพยายามขับรถเบี่ยงหลบ เป็นจังหวะเดียวกับมือไปโดนนักเรียนหญิงที่ซ้อนท้ายจึงทำให้รถจยย.ล้มลงและมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งคนกลางได้รับบาดเจ็บหนักสุด หลังจากนั้นก็ได้มีการปฐมพยาบาลทำแผลช่วยเหลือนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ปกครอง ซึ่งนักเรียนหญิงผู้เสียหายก็ยอมรับว่าฝ่าไฟแดงจริง โดยผู้ปกครองก็ยอมรับในส่วนที่นักเรียนกระทำความผิด แต่ได้แนะนำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปรับปรุงในการปฏิบัติหน้าที่ ว่าถ้าสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุก็ขอให้ปล่อยไป ซึ่งทางตำรวจก็จะนำมาปรับปรุงแก้ไข ในส่วนนี้พนักงานสอบสวนจะได้เชิญนักเรียนหญิงผู้เสียหายมาสอบปากคำ และดูว่าได้รับบาดเจ็บมากน้อยเพียงใหน โดยหากพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการกระทำเกินกว่าเหตุจริงก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของทางวินัยหรือทางอาญา นอกจากนี้ทางผู้กำกับได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวหยุดปฎิบัติหน้าที่จราจรไว้ก่อน เพื่อที่จะได้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนได้ต่อไป