ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี น.ส.ลักษมี มะโนชาติ อายุ 31 ปี สาวทำงานร้านอาหารที่กรุงเทพฯ ถูกฆ่าหั่นศพยัดกระเป๋าเดินทางนำเอาไปทิ้งลงแม่น้ำที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งนางสัด   มะโนชาติ อายุ 60 ปี แม่ของ น.ส.ลักษมีหรือปุ๊ก ยืนยันว่าศพที่เจ้าหน้าที่ ตร.กาญจนบุรี ไปตรวจสอบ เป็นศพของ น.ส.ลักษมี ลูกสาวของตนจริง

เนื่องจากว่า ได้ให้ลูกสาวคนเล็กและเพื่อนของลูกสาวไปตรวจดูชิ้นส่วนของศพรวมทั้งเสื้อผ้าส่วนตัวแล้ว พบว่า ฟันที่เป็นเขี้ยวติดเพชร 2 ข้าง และรอยเจาะบริเวณสะดือ รวมทั้งเสื้อผ้าเป็นของ น.ส.ลักษมี หรือปุ๊กจริง ขณะนี้รอการติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอรับศพมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 17 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 178 หมู่ 3 บ้านพอก ต.ไพร อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ นางสัด  มะโนชาติ อายุ 60 ปี แม่ของ น.ส.ลักษมี ซึ่ง น.ส.ลักษมี ส่งเงินมาสร้างให้แม่กับลูกสาวของตนเอง และหลานชายได้พักอาศัยอยู่ ซึ่งนางสัด กับลูกสาวของ น.ส.ลักษมี  ได้พากันนั่งดูอัลบั้มรูปภาพของ น.ส.ลักษมีที่ถ่ายภาพเอาไว้จำนวนมาก

ทั้งกับเพื่อนชายชาวต่างประเทศและกับเพื่อนสาวชายไทยด้วยความรักอาลัย โดยมีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านพากันมาให้กำลังใจ เพื่อให้ นางสัดได้คลายจากอาการเศร้าโศกเสียใจ

11.jpg

 

ต่อมาได้มี ดร.กัลยานี ธรรมจารีย์  รองประธานกรรมการสงเคราะห์ จ.ศรีสะเกษ และคณะได้มาเยี่ยมปลอบใจ นางสัดและลูกสาวของ น.ส.ลักษมี พร้อมทั้งได้มอบเงินจำนวนหนึ่ง  เพื่อเป็นการให้การช่วยเหลือค่าทำศพเป็นการเบื้องต้นแก่นางสัดและลูกสาวของ น.ส.ลักษมี ทำให้ นางสัด ตื้นตันใจเป็นอย่างมาก ที่ได้รับการช่วยเหลือจาก ดร.กัลยาณี เป็นคนแรก  หลังจากที่เกิดเหตุลูกสาวของตนถูกฆาตกรโหดฆ่าอย่างโหดเหี้ยมทารุณ

ดร.กัลยาณี กล่าวว่า ตนมาเยี่ยมให้กำลังใจและช่วยเหลือเงินค่าทำศพเบื้องต้นแก่ นางสัด เนื่องจากทราบข่าวจากสื่อมวลชนและเห็นว่า ครอบครัวนี้ยากจนมาก ตนจึงอยากขอวอนให้องค์กรทางการกุศลต่างๆ และมูลนิธิที่กรุงเทพ ได้ช่วยนำศพของ น.ส.ลักษมี มาส่งที่บ้านให้ด้วย เนื่องจากว่า นางสัดฐานะยากจนคงไม่มีเงินค่าใช้จ่ายในการขนย้ายศพกลับมาบ้าน

ขณะที่ นางเต็ม มะโนชาติ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ม3 บ้านพอก ต.ไพร อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นญาติของ นางสัด แม่ของเหยื่อฆาตกรโหด กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.15 น. ของคืนวันที่ 14 พ.ย. 57 ที่ผ่านมา หลังจากที่ทราบข่าวว่า น.ส.ลักษมี ถูกฆ่า

 ตนจึงได้มานอนเป็นเพื่อนนางสัด เพื่อเป็นการให้กำลังใจด้วย แต่ว่าตนกับ นางสัด นอนไม่หลับพากันนั่งพูดคุยกันอยู่ในบ้าน และปรากฏว่าพวกตนได้ยินเสียงคนตักน้ำในห้องน้ำที่เปิดไฟอยู่ โดยเป็นเสียงคล้ายกับการตักน้ำขึ้นมาล้างเท้า 2 ครั้งติดต่อกัน ตนและนางสัด ได้ยินเสียงชัดเจน เพราะว่าในห้องน้ำไม่มีคน แต่มีเสียงคนตักน้ำล้างเท้าได้อย่างไร

ตนถึงกับขนหัวลุกด้วยความกลัว แต่นางสัดบอกว่า น.ส.ลักษมีหรือปุ๊ก ที่ถูกฆ่า คงเพิ่งจะกลับมาจากกรุงเทพฯ จึงมาล้างเท้า ตนพากันมองหน้ากันแล้ว และคิดว่า น.ส.ลักษมี เป็นลูกหลานของตนคงจะไม่มีอะไร จากนั้น ได้พยายามข่มตาให้หลับได้ประมาณ 1 ชม. พอใกล้สว่างจึงได้รีบกลับไปบ้านของตนที่อยู่ใกล้กันทันที ตนเชื่อว่า วิญญาณของ น.ส.ลักษมี  กลับมาบ้านอย่างแน่นอน

ขณะที่ นางสัด แม่ของ น.ส.ลักษมี  เหยื่อฆาตกรโหด กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 15 พ.ย.57 เวลาประมาณ 23.00 น. ขณะที่ตนกำลังจะเข้านอน ปรากฏว่า ตนได้ยินเสียงคล้ายกับเสียงของ น.ส.ลักษมี กำลังร้องไห้เสียงดังในบ้านที่เปิดไฟสว่างจ้า และในช่วงเวลาดังกล่าว ลูกสาวของ น.ส.ลักษมี และหลานชายที่นอนอยู่ด้วยกันได้นอนหลับหมดแล้ว ตนจึงได้ร้องบอกไปว่า ขอให้ลูกปุ๊กไปสู่สุคติเถิด แม่จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ และขอให้ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สามารถติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฏหมายให้ได้โดยด่วนด้วย ทำให้เสียงร้องไห้ที่ดังประมาณ 5 นาที เงียบหายไป ซึ่งตนไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด แต่อยากให้ลูกมาปรากฏกายให้เห็น เพราะว่ารักลูกสาวคนนี้มาก

ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE5qRTVORFV5TkE9PQ==&subcatid=

เรื่องน่าสนใจ