พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วยผบ.ตร.) และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ว่า ศาลจังหวัดมีนบุรี ได้อนุมัติหมายจับนายอาบูดูซาตาเออร์ อาบูดูเรห์มาน หรือ อิซาน อายุ 27 ปี ในข้อหาร่วมกันมีซึ่งยุทธภัณฑ์ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดหลายจุดว่าอยู่ด้วยกันกับนายไมไรลี ยูซุฟู ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ทั้งที่ธนาคารและอพาร์ตเมนท์ย่านหนองจอก
โฆษกสตช. กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่มีการจับกุมชายเสื้อเหลือง มือวางระเบิดราชประสงค์ที่ประเทศมาเลเซียตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และพล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ก็ไม่ได้ลงพื้นที่ไปควบคุมตัวตามที่เป็นข่าว
ส่วนนายเอเดม คาราดัก และ นายไมไรลี ยูซุฟู ขณะนี้ยังถูกควบคุมตัวอยู่เรือนจำพิเศษมีนบุรียังไม่ได้เคลื่อนย้ายไปคุมขังที่มณฑลทหารบกที่ 11 โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี ระบุว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนอยู่ในอาการปกติ ตั้งแต่ถูกนำมาฝากขังจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีมีญาติ ทนาย หรือ เจ้าหน้าที่จากสถานทูตมาขอเยี่ยมแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณท์ได้จัดกำลังไปคอยดูแลความปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่าทั้งสองจะได้รับอันตราย หรือ ทำร้ายตัวเองได้
ด้านนายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า หลังมีประกาศให้มณฑลทหารบกที่ 11 เป็นเรือนจำชั่วคราวเพื่อใช้เป็นที่คุมขังผู้ต้องหาในคดีระเบิดบริเวณราชประสงค์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไปตรวจดูพื้นที่ ที่จะใช้ในการจัดตั้งเป็นเรือนจำชั่วคราว โดยพบว่าพื้นที่ดังกล่าวยังต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถรองรับการควบคุมตัวผู้ต้องขังทั้ง 2 คนได้ ทั้งนี้จะมีคำสั่งแต่งตั้งให้เจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 20 นายเป็นผู้ควบคุมพิเศษ และส่งเจ้าหน้าที่เรือนจำไปประจำที่ อีก 4 นาย ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ เพื่อให้ทำงานร่วมกันในการควบคุม และดูแลผู้ต้องขัง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะนำตัวนายเอเดม กับนายยูซุฟูไปควบคุมตัวได้เมื่อไหร่
