ศิลปินสาวหน้าใหม่หยิบข่าวอื้อฉาวของศิลปินดัง “ปาร์คบอม” แห่งวง 2NE1 มาแร็พเป็นเพลง ที่มีเนื้อหาสุดรุนแรงจิกกัดศิลปินรุ่นพี่แห่งค่าย YG Ent. ทั้งเรื่องประเด็นการทำศัลยกรรม และคดียาเสพติด
แร็พเปอร์สาวหน้าใหม่ “เคมี่” แห่งวงเกิร์ลกรุ๊ปที่เพิ่งเปิดตัว A.KOR กลายเป็นที่รู้จักทันทีหลังเธอได้ปล่อยเพลงแร็พที่มีเนื้อหาจิกกัดเสียดสีศิลปินหญิงคนดัง ปาร์คบอม แห่งวง 2NE1 ออกมา
โดยเพลง Do the Right Thing ของเธอที่ปล่อยออกมาให้แฟนๆ ฟังกันเมื่อวันที่ 1 ส.ค. มีเนื้อหาที่วิจารณ์ถึงพฤติกรรมของ ปาร์คบอม และสังกัด YG Entertainment อย่างรุนแรงทั้งเรื่องคดีการใช้ยาผิดกฎหมาย และประเด็นการทำศัลยกรรมของไอดอลสาวคนดัง
ซึ่งเนื้อหาของเพลงมีทั้งท่อนที่ว่า “หน้าเธอทั้งบวมทั้งแน่นไปหมดแล้ว, เธอไม่เคยพอใจ ไม่ว่าจะทำอะไรไป, เธอถึงขั้นเสพติดมันแล้ว “หยุดซะทีเถอะ”, ใครช่วยบอกหมอให้หยุดเธอที, กำลังลังจะกลายเป็นเหมือนมิสกังนัม (ที่มีข่าวว่าทำศัลยกรรมถึง 28 ครั้ง) แล้ว”
นอกจากนั้นก็ยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับคดียาผิดกฎหมายของ ปาร์คบอม ที่ว่าเธอได้ลักลอบนำยาผิดกฎหมายเข้ามาในเกาหลี แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตัดสินใจไม่ยื่นฟ้องศิลปินสาวคนดัง เพราะเธอมีหลักฐานว่าใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งศิลปินสาวรุ่นน้องมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติชัดๆ “เธอมันอ่อนแอจนหันไปใช้ยา, เดี๋ยวนี้อัยการใจดีขนาดนี้เชียวเหรอ พนักงาน Samsung มียาแค่ 29 เม็ดยังโดนจับ เธอมีอยู่ 82 เม็ด แต่ทำไมถึงกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ไปได้ เธอนี่เจ๋งจริงๆ, น่าจะได้ตำแหน่งทูตแห่งกระทรวงยุติธรรมไปเลย”
ส่วนท่อนที่กล่าวถึงบริษัท YG Entertainment มีใจความว่า “หลังซุ่มเงียบจากการปิดข่าวของบริษัท เธอก็คงกลับมาใหม่เมื่อทุกอย่างเงียบลง สุดท้ายก็ยังทำงานได้เหมือนเดิม อิจฉาจริงๆ ที่มี ซีอีโอ มาช่วยแต่งเรื่องแก้ตัวให้แบบนี้”
ซึ่งเพลงดังกล่าวได้ทำให้สาวน้อย เคมี่ ถูกพูดถึงขึ้นมาในทันที โดยคนส่วนใหญ่เชื่อว่าเธอน่าจะอาศัยชื่อเสียงของ ปาร์คบอม และ YG Entertainment ในการสร้างข่าวทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น ส่วน DOO Republic ที่เป็นต้นสังกัดของ เคมี่ และ A.KOR ยอมรับว่าเป็นห่วงศิลปินในสังกัดอยู่เหมือนกัน ที่ต้องเจอกระแสต่อต้านจากแฟนๆ ของ 2NE1 แบบนี้ และอธิบายถึงที่มาของเพลงว่าเป็นผลงานสำหรับการแข่งขันแร็พรายการหนึ่งเท่านั้น ตัวของศิลปินสาวไม่ได้มีความประสงค์อย่างอื่นอยู่แน่นอน ซึ่งเธอที่อายุแค่ 18 ปี ก็ตกใจกับกระแสที่เกิดขึ้นมากเช่นเดียวกัน โดยทาง YG Entertainment ยังไม่ได้มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด
ขอบคุณที่มา ผู้จัดการออนไลน์