สกินแคร์เนื้อน้ำ ถ้าพูดคำนี้หลายคนอาจจะทำหน้างงๆ ถ้าถ้าพูดว่า “น้ำตบ” ก็คงร้องอ๋ออออ กันขึ้นมาบ้าง ใช่เเล้วค่ะ! เพราะมันคือไอเท็มที่กำลังฮอตฮิตในหมู่สาวๆ นั่นเอง มาทำความรู้จักกับสกินแคร์ประเภทนี้ให้มากขึ้น เเล้วคุณจะรู้ว่าสกินแคร์เนื้อน้ำทำอะไรได้มากกว่าทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น
บางคนไม่ชอบทาครีมเพราะเหนียวเหนอะหนะ หนักหน้า ไม่สบายผิว เดียวนี้หลายๆแบรนด์จึงออกสกินแคร์สูตรน้ำ มาตอบโจทย์กลุ่มคนที่ชอบความบางเบา สบายผิว การที่สกินแคร์เหล่านี้ถูกเรียกว่า “น้ำตบ” ก็เพราะต้องใช้การตบผิวเบาๆ เพื่อให้สกินแคร์เนื้อน้ำซึมเข้าผิวได้ดี เหตุผลสําคัญก็คือสกินแคร์เนื้อน้ำนั้นต้องการความร้อนจากฝ่ามือเพื่อช่วยผลักให้เนื้อสกินแคร์ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วขึ้น จึงต้องถูฝ่ามือให้อุ่นก่อนเทสกินแคร์เนื้อน้ำแล้วตบเบาๆ ให้ทั่วผิวหน้า
ด้วยคุณสมบัติเด่นของสกินแคร์เนื้อน้ำ ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กและเนื้อสัมผัสเบา จึงนิยมใช้เป็นขั้นตอนแรกของการบํารุงผิว โดยใช้สกินแคร์เนื้อน้ำหลังโทนเนอร์หรือเป็นขั้นตอนแรกเลย จากนั้นตามด้วยเซรั่ม ออยล์ หรือครีม โดยเว้นช่วงแต่ละขั้นตอนสักพัก เพื่อรอให้สกินแคร์ซึมเข้าสู่ผิวดีก่อน
หลังจากที่สกินแคร์เนื้อน้ำซึมเข้าสู่ผิวใหม่ๆ เป็นช่วงที่ผิวเรายังหมาดๆ คือเวลาเหมาะสําหรับการลงสกินแคร์ขั้นตอนต่อไปอย่างเซรั่ม แนะนําให้ลงเซรั่มหรือครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินซีต่อจากสกินแคร์เนื้อน้ำ เพราะวิตามินซีที่มีคุณสมบัติละลายในน้ำ จะถูกดูดซึมได้ดีในผิวที่มีความชุ่มชื่น
สกินแคร์เนื้อน้ำ ไม่ได้ถูกจํากัดให้ใช้กับผิวหน้าเท่านั้น เดี๋ยวนี้โลชั่นหรือน้ำตบสําหรับผิวกายก็มีวางจําหน่ายแล้ว หลังอาบนําเสร็จและเช็ดผิวให้หมาด ใช้ฝ่ามือตบสกินแคร์เนื้อน้ำเบาๆ ทั่วผิวกาย รอให้ซึมซาบสักพักแล้วทาบอดี้โลชั่น ทําเป็นประจําจะรู้สึกว่าผิวกายเรียบเนียนและชุ่มชื่นขึ้น ด้วยความที่โมเลกุลของน้ำในเนื้อสกินแคร์มีขนาดเล็กกว่าโมเลกุลของเนื้อครีมหรือเซรั่ม โมเลกุลน้ำเหล่านี้จึงสามารถซึมสู่ผิวได้ล้ำลึก เพื่อช่วยให้เซลล์ผิวชั้นหนังกําพร้าอ่อนนุ่ม เมื่อลงสกินแคร์ขั้นตอนต่อไป จึงซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้น
ปัจจุบันสกินแคร์ประเภทนี้ ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น เพราะมีการใช้สารสกัดและเทคโนโลยีใหม่ๆ ทําให้สกินแคร์เนื้อน้ำมีคุณสมบัติหลากหลายยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่ให้ความชุ่มชื่นเพียงอย่างเดียว