สบส. สนธิกำลังร่วมกับ บก.ปคบ. และ สสจ.ปทุมธานี ลงพื้นที่ตรวจจับสถานพยาบาลเถื่อน บริเวณมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ย่านรังสิต เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นด้านระบบบริการสุขภาพแก่ประชาชน

12119432_1203599662989886_1662260030_o

วันนี้ (5 ตุลาคม 2558) นาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พร้อมด้วย นายแพทย์ธเรส กรัษนัยรวิวงค์ รองอธิการบดีสนับสนุนบริการสุขภาพ และนายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้ช่วยอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และสำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดปทุมธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานพยาบาลเถื่อน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ย่านรังสิต

นาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดเผยว่า จากการที่มีผู้ร้องเรียนผ่านกองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เพื่อตรวจสอบสถานพยาบาลบริเวณมหาลับเอกชน ย่านรังสิต ว่าเป็นสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพจึงได้สนธิกำลังร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.)  และสำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจสอบสถานพยาบาลดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยรังสิตภิรมย์ ตำบอลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

จากการตรวจสอบสถานที่ พบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ดัดแปลงเปิดให้บริการเป็นสถานพยาบาลชื่อ “กชามาศ คลินิกเวชกรรม” ให้บริการเสริมความงาม ร้อยไหม ฉีดฟิลเลอร์ โบท็อก และสเต็มเซลล์โดยมีหญิงสาวอายุประมาณ 22 ปี เป็นเจ้าของสถานที่และผู้ให้บริการ

12084943_1203601712989681_364888864_o

โดย นายแพทย์ธเรส กรัษนัยรวิวงค์ รองอธิการบดีสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบ การกระทำความผิด 4 ข้อหา ได้แก่

  1. ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 มาตรา 26 มีโทษตามมาตรา 43 จำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  2. ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 16 มีโทษตามมาตรา 57 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
  3. จำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2510 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
  4. จำหน่ายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีความผิดตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2510 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ซึ่งของกลางประเภทยาเวชภัณฑ์จะต้องนำส่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) ตรวจวิเคราะห์ส่วนประกอบ หากพบว่ามีสารต้องห้าม จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้ช่วยอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพกล่าวเพิ่มเติมว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพขอเน้นย้ำให้ผู้รับบริการโดยเฉพาะในกลุ่มนิสิตนักศึกษา หรือวัยรุ่นให้พิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเลือกรับบริการจากแพทย์ หรือสถานเสริมความงาม มิใช่คำนึงถึงแต่เพียงราคาที่ถูก หรือคำโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง โดยให้รับบริการจากสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและขึ้นทะเบียนกับกระทรวงสาธารณะสุขอย่างถูกต้องเท่านั้น

12124330_1203598906323295_1078259752_o

สามารถสังเกตได้จากหลักฐานต่างๆดังนี้

  1. มีการแสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลและใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย
  2. ด้านหน้าสถานพยาบาลต้องมีป้ายขนาดใหญ่แสดงชื่อสถานพยาบาล ประเภทและลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาล รวมทั้งเลขที่ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลซึ่งมีเลขจำนวน 11 หลัก
  3. ในส่วนของแพทย์ที่ทำการรักษาจะต้องตรงตามป้ายที่แสดงรูปถ่ายของผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ พร้อมชื่อ-นามสกุล และเลขที่ใบอนุญาตของแพทย์หรือผู้ประกอบวิชาชีพโดยต้องตรวจสอบแพทย์ที่ทำการรักษาว่าตรงกับรูปถ่ายที่แสดงหรือไม่ และให้ตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์แพทย์สภา (www.tmc.or.th)

หากมีข้อสงสัยหรือพบสถานพยาบาลและหมอเถื่อน สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่เว็บไซต์สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ (www.mrd.go.th/mrdonline2014) Facebook :สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ สพรศ. , Facebook : มือปราบสถานพยาบาลเพื่อน และสายด่วน สบส. 02-193-7999 ตลอด 24 ชั่วโมง

เรื่องน่าสนใจ