กรมสนับสนุนบริการสุขภาพแนะประชาชนเตรียมตัวก่อนเดินทาง สร้างภูมิคุ้มกัน ในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง ยึดหลักสุขบัญญัติด้วยการสวมเสื้อกันหนาว เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย ไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน ทานอาหารปรุงสุกใหม่ๆ ล้างมือบ่อยๆ ก่อนหลังทานอาหาร และหลังขับถ่าย รวมทั้งออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่
นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ ในทุกภาคของประเทศไทยต่างมีอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณภูเขา ที่มีอากาศหนาวจัด หมอกลงในตอนเช้า และน้ำค้างลง ทำให้ประชาชนในพื้นที่ หรือผู้ที่ต้องออกเดินทางในช่วงนี้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งอาจเกิดมีอาการเป็นไข้แบบทันทีทันใด ปวดศีรษะ หนาวสั่น คัดจมูก เจ็บคอ และมีอาการไอจากหลอดลมอักเสบ ซึ่งอาการจะรุนแรงและป่วยนานกว่าไข้หวัดธรรมดา และหากมีอาการรุนแรงควรรีบพบแพทย์ เนื่องจากอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ คือ ปอดอักเสบ ซึ่งอาจจะทำให้เสียชีวิตได้
นายชาญยุทธ พรหมประพัฒน์ ผู้อำนวยการกองสุขศึกษา กล่าวแนะประชาชนให้ดูแลสุขภาพ ทำร่างกายให้แข็งแรง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว โรคภูมิแพ้ และผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ ควรดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ทั้งนี้ สามารถนำหลักการดูแลสุขภาพตามสุขบัญญัติ 10 ประการ มาใช้เป็นแนวปฏิบัติง่ายๆ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสอากาศหนาว ดังนี้
1) สวมเสื้อผ้าให้หนามากพอ เป็นเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ หรือเสื้อโค้ท และควรสวมหมวก ถุงเท้า เพื่อลดการถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกาย ให้พกผ้าห่มติดกระเป๋า ก่อนนำเสื้อหนาวมาสวมใส่อาจมีไรฝุ่นติดมา ให้นำมาซักให้สะอาดและตากให้แห้ง
2) ไม่ควรใช้ของร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ หลอด ชาม ช้อน
3) ทานอาหารปรุงสุกร้อนๆ ดื่มน้ำขิงอุ่นๆ คลายหนาว ไม่ดื่มน้ำเย็นจัด
4) ล้างมือก่อนหลังทานอาหาร และหลังการขับถ่ายให้สะอาด โดยพกเจลล้างมือติดตัวไปด้วย
5) ออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อยืดเส้นยืดสายในยามเช้าปรับสมดุลสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย วิธีการดังกล่าวสามารถนำไปปฏิบัติได้ทุกคนทุกวัย ทำให้เดินทางท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุข สดชื่น เป็นภูมิป้องกันการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ได้