หลังจากไปดูแลคุณแม่ที่ถูกรถชนต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองที่บ้านเกิดจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเวลาหลายวัน ล่าสุดวันนี้ (21 มีนาคม) หญิงลี – ธิดารัตน์ ศรีจุมพล ก็ได้มาร่วมงาน ‘ยิ่งส่งยิ่งสุข’ ปฏิบัติการความสุขรูปแบบใหม่ ชวนคนไทยชมและแชร์ความสุขผ่านเพลง ที่ลานเอเทรียม ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์ โดยใบหน้าที่บวมจนเห็นได้ชัดทำเอาหลายคนอดห่วงไม่ได้
โดยหญิงลีกล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงอาการป่วย โดยตนไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แต่มีภาวะนอนไม่หลับเป็น 10 วัน หลังจากคุณแม่โดนรถชนต้องรับประทานยานอนหลับช่วยสำหรับวันที่ต้องไปทำงานตอนเช้า รวมทั้งมีอาการแขนขาอ่อนแรง เวลาขึ้นบันไดต้องใช้มือช่วยยกขาก้าวขึ้น คิดว่าอาการที่เกิดขึ้นไม่น่าเกี่ยวกับยานอนหลับ แต่เกี่ยวกับความเครียด
ซึ่งยอมรับว่ากลัวจะเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง อย่างไรก็ตามปกติเคยหน้าบวมแล้วก็หายไป ครั้งนี้อาจจะใช้เวลาถึง 2-3 สัปดาห์ ซึ่ง 2-3 วันก่อนได้ไปให้หมอตรวจเลือดก็พบว่าปกติ ไม่ได้เป็นอะไร แต่เตือนว่าให้รับประทานอาหารและยาให้ตรงเวลา โดยตั้งใจว่าวันนี้จะไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
“เบื้องต้นได้ไปหาหมอมาแล้ว 2 – 3 วันที่แล้ว ได้ไปตรวจเลือดดูก็ไม่ได้เป็นอะไร อาจจะเป็นเพราะว่านอนไม่หลับแล้วสมองตีบตันหรือเปล่า ยังไม่ได้ไปเช็ค กะว่าวันนี้จะไปเช็ค เรื่องคุณแม่ก็หมดห่วงแล้วกลับมาที่บ้านแล้ว เรื่องค่ารักษาอะไรก็จัดการหมดแล้วแล้ว
วันนี้หญิงก็ได้มาเคลียร์งาน จากตอนแรกที่จะไม่ได้มา เพราะหญิงไม่สวย ร่างกายไม่พร้อม หญิงเต้นไม่ได้ ก็บอกกับทางผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็บอกว่าไม่ได้ เพราะงานเขาแพลนมาแล้ว หนูก็ไม่โอเค ถ้างั้นหนูจะไป แต่ก็ขออภัยที่หนูไม่สมบูรณ์” หญิงลีกล่าว
และว่าขอความเข้าใจสำหรับอาการป่วยที่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อออกสื่อแล้วก็ต้องเต็มที่ นอกจากนี้ตั้งใจว่าต่อไปจะขอทำงานด้วยความสุข ไม่โลดโผนรับงานมากมาย เพราะเงินทองหาซื้อสุขภาพไม่ได้ เมื่อสุขภาพแย่ก็ไม่มีความสุข รวมทั้งอยากทำอะไรเพื่อสังคม หากมีหน่วยงานใดให้ไปช่วยงาน จะบรรยายหรือใดๆ ก็พร้อม
ส่วนอาการของคุณแม่นั้น หญิงลีกล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกต้องดูเป็นชั่วโมงต่อชั่วโมง ตนมีการโทรหาพี่ชายที่ไม่ได้เจอแม่มา 2 ปีให้รีบกลับมาเพราะไม่รู้ว่าแม่จะจากไปหรือเปล่า
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้รู้ว่าการมีชีวิตมันมหัศจรรย์แค่ไหน ส่วนคนที่ถามว่าทำไมไม่พาแม่ไปโรงพยาบาลดีๆ เนื่องจากตอนนั้นแม่ต้องได้รับความช่วยเหลือ และเข้าผ่าตัดทันทีไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เลย แต่ก็ได้รับการช่วยเหลืออย่างดีตั้งแต่ที่อบต.บ้านครู ที่อำเภอนาโพธิ์ จนส่งเข้าไปถึงโรงพยาบาลจังหวัดบุรีรัมย์
โดยตนได้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่าง เพราะเชื่อในปาฏิหาริย์ แรงศรัทธา แต่ไม่กล้าบนบานเพราะว่าขี้ลืม ซึ่งก็ตั้งใจว่าจะเป็นคนดีของสังคม นอกจากนี้ที่ผ่านมาเวลาใครเจ็บป่วย แม่จะชอบบอกว่าให้มาลงที่แม่ ให้แม่เป็นแทน เมื่อวานตนจึงไปตั้งศาลพระภูมิที่บ้านให้พ่อใหญ่แม่ใหญ่มาอยู่ และเชิญสัมภเวสีที่ดุร้ายไปรับกองบุญที่วัด
