เนื้อหาโดย : โดดเด่นดอทคอม
เจี๋ยวกู่หลาน หรือ ชาสตูล, เบญจขันธ์, ปัญจขันธ์, เซียนเฉ่า เป็นพืชที่ขึ้นอยู่ทั่วทวีปเอเชีย ลักษณะของพืช เป็นไม้เถาล้มลุก ลำต้นเล็กเรียวยาว ลำต้นที่เลื้อยระยางแตกกิ่งแขนงได้ บริเวณข้อของลำต้นที่ทอดนอนไปตามดินจะออกรากได้ ใบเป็นใบประกอบแบบฝ่ามือออกสลับ ส่วนมากมีใบย่อย 5 ใบ ดอกเล็ก สีเหลืองปนเขียว ผลค่อนข้างกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-7 มิลลิเมตร ส่วนที่ใช้เป็นยา คือต้นส่วนเหนือดินและใบ มีรสขมหรือขมอมหวาน
เจียวกู่หลาน(ปัญจขันธ์) ประกอบด้วยสารที่ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด เช่น ซาโปนิน ( Saponins ), เฟลโวเนส, โพลีซัลคาไรด์, กรดอมิโน, ไวตามิน, บี1, บี2, สารGYPENOSIDES ในเจียวกู่หลาน(ปัญจขันธ์) เป็นสารที่มีโครงสร้างของส่วนประกอบคล้ายกับที่พบในโสม และมีมากกว่าโสมถึง 27 เท่า เป็นสารที่ช่วยบำรุงร่างกาย เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเซลล์ ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพต่อการสั่งงานของสมอง ช่วยในการสร้างตัวต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง
แพทย์แผนจีนใช้ส่วนใบเป็นยาแก้อักเสบแก้ไอ ขับเสมหะ แก้หลอดลมอักเสบชนิดเรื้อรัง แพทย์แผนไทย ใช้ส่วนที่เป็นก้านตากแห้งบดละเอียด แก้อ่อนเพลีย แก้แผลอักเสบ ช่วยให้ไม่เหนื่อยง่าย
การขยายพันธุ์ สามารถกระทำได้ทั้งการเพาะปลูกด้วยเมล็ด, การใช้ลำต้นปักลงดิน, การใช้เถาปักชำ
ประโยชน์ของ เจี๋ยวกู่หลาน
การดื่มชาเจียวกู่หลาน ควรดื่มหลังอาหารเช้า, กลางวัน, เย็น และก่อนนอน โดยเฉพาะก่อนนอน จะช่วยทำลายสารอาหารตกค้าง อาหารที่ไม่สะอาด ที่ย่อยสลายไม่หมด และขับสารพิษในกระเพาะอาหารและลำไส้
เคล็ดลับการชงชาดอกไม้ ชาดำ ชาแดง ชาอู่หลง รวมทั้ง ชาเจียวกู่หลาน ควรชงด้วยน้ำร้อนจัด หรือเดือดจัด 100 องศาเซลเซียส เพื่อให้ใบชาคลายรสชาติที่ดีออกมา มีเพียงชาเขียวเท่านั้นที่ไม่ควรชงด้วยน้ำเดือดเพราะจะทำลายรสชาติความสดของชา.
ข้อมูลจาก : ปัญจขันธ์สมุนไพรจากเชียงใหม่, เจี๋ยวกู่หลาน.com, wikipedia, ไทยรัฐออนไลน์