จากกรณีเจ้าหน้าที่สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยาได้รับแจ้งพบศพเด็กเพศชายอายุประมาณ 2-3 ปี ไม่สวมใส่เสื้อผ้า ถูกตัวเงินตัวทองแทะอยู่ริมถนน สาย อยุธยา-เสนา ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 19-20 ม.2 ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
ตรวจสอบคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน ถูกนำมาทิ้งเอาไว้ริมถนน ตามร่างกายแล้วไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย มีเพียงบาดแผลที่บริเวณแขนที่ถูกตัวเงินตัวทอง ใกล้กันพบผ้าปูที่นอน และถุงพลาสติกใช้สำหรับใส่ผ้าปูที่นอน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกตรวจสอบ ตามแคมป์คนงานก่อสร้าง แต่ไม่พบข้อมูลว่ามีเด็กหาย หรือคนงานหายยออกไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 18 พ.ย. พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เกตุอร่าม จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้สืบสวนจนทราบว่าศพเด็กชายที่พบคือด.ช.จิรานุวัฒน์ จอกจาน อายุ 3 ปี และไปติดตามจับกุมตัวนายนายภาณุวัตร บุญรักษ์ อายุ 27 ปี พร้อมกับน.ส.กาญจนา จอกจาน อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นแม่ของด.ช.จิรานุวัฒน์ได้ที่ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี จากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบสวน ที่สภ.เสนา
นายภาณุวัตรให้การรับสารภาพว่า ลงมือฆ่าด.ช.จิรานุวัฒน์จริง โดยตนมีอาชีพเป็นพนักงานโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ใน จ.พระนครศรีอยุธยา คบหากับน.ส.กาญจนา ซึ่งมีลูกติดมาจากสามีเก่า 2 คน อาศัยอยู่ด้วยที่หอพัก หลังโรงพยาบาลศุภมิตรเสนา
ด.ช.จิรานุวัฒน์มักจะชอบร้องงอแงเป็นประจำ อุจาระปัสสาวะเลอะเทอะ คืนวันที่ 16 พ.ย. ด.ช.จิรานุวัฒน์ส่งเสียงร้องดังไม่ยอมหยุด จึงใช้ไม้แขวนเสื้อตีไปหลายครั้งจนสลบ
นายภาณุวัตรให้การว่า ก่อนที่จะอุ้มเข้าไปในห้องน้ำแล้วใช้สายยางเปิดน้ำใส่จมูกจนนิ่งไปแล้วทิ้งไว้ในห้องน้ำ จนเวลา 02.30 น. น.ส.กาญจนาได้เข้าไปดูลูกชายในห้องน้ำพบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงมาบอกกับตนเองกลัวความผิดจึงตัดสินใจเอาด.ช.จิรานุวัฒน์ ห่อใส่ผ้าปูที่นอนพร้อมเอาเสื้อผ้าปิด และเดินออกมาจากหอพัก ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรโยนศพทิ้ง แล้วพากันหลบหนีมาพร้อมกับภรรยา จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว
น.ส.กาญจนากล่าวว่า สามีเป็นคนอารมณ์ร้อนเคยถูกทุบตีและซ้อมเป็นประจำ ได้แต่นอนคลุมโปรง ได้ยินเสียงลูกร้องและถูกตีไม่คิดว่าลูกจะตาย จนสามีสงบลงจึงได้เข้าไปดูลุกในห้องน้ำพบว่าเสียชีวิตแล้ว เกรงว่าจะมีความผิดด้วยจึงได้พากันหลบหนีไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายภาณุวัตร ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่หอพัก ใน ต.บางนมโค จุดที่ทุบตี และภายในห้องน้ำที่ใช้สายยางกรอกน้ำเข้าจมูกจนเสียชีวิต และนำศพไปทิ้งที่ริมถนน ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้านที่มามุงดูการทำแผน
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นยังไม่มีการตั้งข้อหาแม่ของเด็ก ต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะภรรยาของผู้ต้องหา ถูกทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ไม่กล้าที่จะลุกขึ้นมาช่วยลูก เพราะคิดว่าจะเหมือนกับทุกวันที่ลูกร้องงอแง แล้วถูกตี ซึ่งการสอบสวนหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะถูกดำเนินคดี