ทุกวันนี้ช่างสักเกิดขึ้นมากมาย ผู้หญิงหลายๆ คนนั้น ก็มักอยากจะ ส้กคิ้วออกมาให้สวย ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้ว่า ในวงการมีช่างบางคนแอบเอาสีไร้คุณภาพที่ปนเปื้อนโลหะหนักและเคมีอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกินค่ามาตรฐานมาใช้สักให้ลูกค้า เป็นที่มาของข่าว คิ้วปลิง คิ้วเข้ม คิ้วสีเพี้ยนเป็นสีม่วง เขียว หรือ หนักกว่านั้นคือคิ้วดำสนิทแบบไม่มีทีท่าว่าจะจางลง แล้วถ้าเราเป็นหนึ่งคนที่พลาดไปสักคิ้วแบบนั้นมาแล้วจะแก้อย่างไรได้บ้าง ลองมาดูทางเลือกกัน
ทางเลือกแรก คือ การลบด้วยเลเซอร์ เลเซอร์ก็มีอยู่มากมายหลายรุ่นหลายแบบ ปัจจุบันร้านสักบางแห่งที่ไม่ใช่คลินิกไม่ใช่แพทย์ ก็มีการแอบเอาเครื่องเลเซอร์จีนไปลบให้ลูกค้า ทั้งที่ความจริงแล้วเครื่องเลเซอร์จัดเป็นเครื่องมือแพทย์ที่ต้องผ่านการขึ้นทะเบียนและให้บริการโดยแพทย์ในคลินิก-โรงพยาบาลเท่านั้น การลบด้วยเครื่องเลเซอร์ที่มีคุณภาพ แพทย์จะเลือกชนิดของเครื่องและตั้งค่าได้ตรงกับสภาพผิวและสีสักที่สักมา เลเซอร์บางตัวไม่จับสีดำ บางตัวไม่จับสีเนื้อที่สักแล้วไปลบสีมา แพทย์ที่จะทำให้จึงต้องมีประสบการณ์และความชำนาญเฉพาะทางจริงๆ อย่างไรก็ตามการลบด้วยเลเซอร์อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องทำซ้ำหลายครั้ง ขณะเดียวกันการลบด้วยเลเซอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจทำให้เกิดรอยไหม้ ด่าง หรือ เป็นรอยแผลเป็นได้
ทางเลือกต่อมา คือ การใช้สีเนื้อ (สีสกิน) ลบ โดยใช้สีเนื้อที่มีสีใกล้เคียงกับสีผิวจริง ส่วนใหญ่นิยมลบรอยสักเล็กๆ เช่น หัวคิ้ว หางคิ้ว หรือ สะกิดลายเส้นบางส่วนที่สักมาออก แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้คือเมื่อเราลบด้วยสีเนื้อไปแล้ว วันข้างหน้า สีผิวของเราขาวขึ้นหรือดำคล้ำลง สีเนื้อ สีสกิน ที่สักไปจะไม่เปลี่ยนสีตามผิวเรา ก็อาจจะเห็นเป็นรอยด่างๆ ได้ ปัจจุบันการใช้สีสักทับนอกจากสีเนื้อแล้วในรายที่คิ้วเพี้ยนสีเป็นสีม่วง แดง เขียว น้ำเงิน ยังมีการใช้สีที่สามารถหักเหสีด้วยกันสักทับ เพื่อปรับเปลี่ยนสีให้ซอฟท์และเป็นธรรมชาติลงได้
ทางเลือกสุดท้าย คือ การใช้น้ำยาเคมี หรือ น้ำยาสมุนไพรต่างๆ ลบ ซึ่งเป็นเหมือนการใช้น้ำยาสักทับลงไป โดยเป็นการทำให้เกิดแผลบริเวณนั้นๆ และให้น้ำยาจับสีสักเดิมหลุดลอกออก สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือ น้ำยามีหลายเกรด หลายคุณภาพ หลายยี่ห้อ บางเกรดก็ไม่ต่างกับการใช้น้ำกรดระบายลงไปที่ผิวหนังเรา ซึ่งก็เสี่ยงต่อการเกิดรอยด่าง รอยไหม้ หรือ รอยแผลเป็น หรือ เกิดการอักเสบติดเชื้อ หนักไปนั้นในบางรายที่ผิวบอบบางมาก เมื่อผิวเกิดแผลจากการใช้น้ำยาลบ ก็อาจจะเกิดรอยแผลเป็นปูดนูน หรือ คีลอยด์ได้ การใช้น้ำยาอาจจะต้องเลือกตัวผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ และ ต้องศึกษาข้อดีข้อเสียให้ดี รวมถึงต้องมั่นใจด้วยว่าผิวเราเหมาะกับการใช้น้ำยาหรือไม่
อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นว่า งานแก้ยากกว่างานสักใหม่มาก ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อคุณจะคิดจะสักคิ้ว การศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ เลือกสถานที่ เลือกช่างสักหรือผู้เชี่ยวชาญ พิจารณาดูที่มาของสีและเครื่องมือที่ใช้เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง อย่าเห็นแก่ราคาถูก หรือ แค่การโฆษณาชวนเชื่อ เพราะสุดท้ายการสักครั้งนั้นมันจะอยู่กับเราไปชั่วระยะเวลานึงเลยทีเดียว
ขอขอบคุณที่มาของเรื่องราวจากคุณ Raphatkorn Sakulphatthakornwong
