สธ.วอนสื่อ ญาติ เพื่อน ช่วยให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ–ครอบครัวผู้เสียชีวิต “เลี่ยงถามเหตุการณ์ระเบิดราชประสงค์”
กระทรวงสาธารณสุข ส่งทีมสุขภาพจิตเยี่ยวผู้บาดเจ็บ ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ ทุกราย วางแผนดูแลต่อเนื่องจนมั่นใจว่าไม่เกิดปัญหาทางจิตใจ พร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชน ผู้ไปเยี่ยม ช่วยกันให้กำลังใจ และหลีกเลี่ยงการถามถึงรายละเอียดในวันเกิดเหตุ
เช้าวันนี้ (21 สิงหาคม 2558) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข (วอร์รูม) กรณีเหตุระเบิดราชประสงค์ ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ดูแลผู้ได้รับผลทบจากเหตุการณ์อย่างเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาล
ทั้งด้านการรักษาผู้บาดเจ็บ การดูแลสุขภาพจิตผู้บาดเจ็บและญาติที่รักษาในโรงพยาบาล และครอบครัวผู้เสียชีวิต ขณะนี้ ได้ส่งทีมสุขภาพจิตเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายแล้ว ผู้บาดเจ็บและญาติ พบว่ายังมีความเครียด จะติดตามอย่างต่อเนื่องทุกรายจนกว่าจะมั่นใจว่าไม่มีปัญหาสุขภาพจิต เพื่อเฝ้าระวังการเกิดบาดแผลทางใจ หรือที่เรียกว่า พีทีเอสดี (PTSD : Post Trauma Stress Disorder)
“ขอความร่วมมือสื่อมวลชน ญาติ และเพื่อนที่ไปเยี่ยม หลีกเลี่ยงการสัมภาษณ์หรือสอบถามรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะจะกระตุ้นให้คิดถึงภาพเหตุการณ์ที่สะเทือนใจ ทำให้เกิดความเครียดซ้ำเติม วิธีที่ดีที่สุดคือการพูดการแสดงออกที่ให้กำลังใจ เพื่อให้ปรับตัวและก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงในช่วงวิกฤต กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้” นายแพทย์พิทักษ์พลกล่าว
นายแพทย์พิทักษ์พลกล่าวต่อว่า ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (รพ.สงฆ์) รายงานข้อมูลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จากศูนย์เอราวัณ กทม. และรพ.ตำรวจ ณ เวลา 08.00 น. วันนี้ ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นตามลำดับ วานนี้ (20 สิงหาคม 2558) กลับบ้านแล้ว 2 ราย ยังเหลือนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 62 ราย ในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน 14 แห่ง อยู่ในห้องไอซียู 18 ราย ในโรงพยาบาล 10 แห่ง เป็นรพ.รัฐ 6 แห่งและเอกชน 10 แห่ง โดยผู้ป่วยที่อยู่ในไอซียู รพ.เลิดสิน และรพ.ราชวิถี แห่งละ 2 ราย อาการดีขึ้น สัญญาณชีพดี
ส่วนผู้เสียชีวิตมีจำนวนเท่าเดิม 20 ราย เป็นคนไทย 6 ราย ต่างชาติ 14 ราย ได้แก่ มาเลเซีย 5 ราย จีน 5 ราย จีนฮ่องกง 2 ราย สิงคโปร์ 1 รายและอินโดนีเซีย 1 ราย ขณะนี้ ญาติรับศพกลับภูมิลำเนาแล้ว 12 ราย ยังเหลืออีก 8 รายเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด
ที่มา สำนักสารนิเทศ