กระทรวงสาธารณสุข เผยไทยประสบความสำเร็จในการยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกในระดับต้นๆ ของโลก อัตราการติดเชื้อลดจากร้อยละ 20-45 เหลือเพียงร้อยละ2.1 ในปี 2557 ประสานองค์การสหประชาชาติรับรอง เน้นการให้คำปรึกษา ฝากครรภ์เร็ว เจาะเลือดตรวจหาเชื้อฯ และให้ยาต้านไวรัสสูตรรวม 3 ตัว ทั้งแม่และเด็ก ให้กินนมผงแทนนมแม่
วันนี้ (5 สิงหาคม 2558) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศ.นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์อำนวย กาจีนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย และนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าว “ความสำเร็จการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก” ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศแรกของโลกที่จะยุติปัญหาการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกได้สำเร็จ อัตราการถ่ายทอดเชื้อฯ จากแม่สู่ลูกล่าสุดในปี 2557 อยู่ในระดับต่ำมาก เพียงร้อยละ2.1 ใกล้เป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 2 ภายในพ.ศ.2560 ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานกับองค์การสหประชาชาติคือ องค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟ เพื่อประกาศรับรองความสำเร็จ
ศ.นายแพทย์รัชตะกล่าวว่า ไทยพบการติดเชื้อเอชไอวีในหญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่ปี 2531 และได้ดำเนินโครงการป้องกันยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก หากไม่มีการป้องกัน จะมีเด็กติดเชื้อเอชไอวีจากแม่สูงถึงร้อยละ 20-45 ตั้งเป้าลดอัตราการถ่ายทอดเชื้อให้น้อยกว่าร้อยละ 2 ภายในปี 2560 โดยให้สถานบริการของรัฐดำเนินงานป้องกันผสมผสานระบบบริการของโรงพยาบาล รณรงค์ให้หญิงฝากครรภ์เร็วขึ้นก่อนอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ บริการให้คำปรึกษาและเจาะเลือดตรวจหาเชื้อเอชไอวีด้วยความสมัครใจ ให้ยาต้านไวรัสสูตรรวม 3 ตัวในรายที่ติดเชื้อ ส่วนเด็กให้กินนมผสมทดแทนนมแม่เป็นเวลา 18 เดือน และตรวจการติดเชื้อตั้งแต่แรกคลอดให้การรักษาเร็วที่สุด เพื่อกดระดับไวรัสในกระแสเลือดไม่ให้แพร่ติดต่อ
จากการดำเนินการดังกล่าว องค์การสหประชาชาติได้เสนอชื่อประเทศไทย เข้าสู่กระบวนการขอการรับรองการยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกเป็นประเทศแรกๆ ในโลก การประเมินดังกล่าวจะมี 3 ส่วนคือ 1.ระบบการดำเนินงานด้านสาธารณสุขในการยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก 2.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ 3. ด้านสิทธิมนุษยชน โดยมีเป้าหมายในภาพรวมคือ อัตราการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกน้อยกว่าร้อยละ 2 ซึ่งคาดว่าทางสหประชาชาติสามารถตรวจสอบข้อมูลในการประเมินทั้งหมดภายในสิ้นปี 2558
ทั้งนี้โอกาสที่ทารกจะได้รับเชื้อเอดส์จากแม่มี 3 ช่วงคือ
1.ขณะอยู่ในครรภ์แม่ เชื้อจะผ่านทางรกเข้าสู่ลูก ป้องกันได้โดยให้ยาต้านไวรัสเอดส์แก่แม่แต่เนิ่นๆ และควรได้รับมากกว่า 4 สัปดาห์ก่อนคลอด
2 .ระหว่างการคลอดหรือ 1-2 สัปดาห์ก่อนคลอด เป็นช่วงที่สำคัญที่สุดของการติดเชื้อ เป็นสาเหตุถึงร้อยละ 50-60 โดยเชื้อเข้าสู่ตัวลูกระหว่างมดลูกบีบรัดตัว ตอนเจ็บท้องคลอดหรือมีเลือดแม่ปนเปื้อนตัวเด็กขณะคลอด การป้องกันในช่วงนี้อาจทำได้โดยวิธีการทำคลอดที่ทำให้มีการปนเปื้อนเลือดแม่น้อยที่สุด เช่น การผ่าตัดทำคลอดทางหน้าท้อง การล้างตัวเด็กให้เร็วที่สุดหลังคลอด และ3. การให้นมแม่ เป็นสาเหตุติดเชื้อประมาณร้อยละ 14 เชื้อผ่านทางน้ำนมของแม่เข้าสู่ปากและทางเดินอาหารของลูก หากใช้นมผงเลี้ยงแทนนมแม่ตั้งแต่เกิด จะลดอัตราการติดเชื้อลงได้
สำหรับสถานการณ์โรคเอดส์ของไทย รายงานล่าสุดในปี 2557 คาดประมาณว่ามีผู้มีเชื้อเอชไอวีที่ยังมีชีวิตประมาณ 446,154 คน และมีผู้ติดเชื้อได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสในระบบบริการสุขภาพ 258,183 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4,498 คน