จากกรณีหญิงสาวทุบตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ ภายในโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เมื่อเวลา 08.10 น.ของเช้าวันที่ 6 มีนาคม 2560 นั้น
ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามความคืบหน้าในคดีของเรื่องนี้กับ พ.ต.ท.เทียนชัย เนื่องจำนงค์ สว.(สอบสวน) สภ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ทราบว่า ความคืบหน้าในคดีนี้หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้ง จึงไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ทราบจากพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลฯว่าผู้ก่อเหตุเป็นหญิงสาวได้มากดเงิน แล้วเงินไม่ออก จึงทุบตู้ดังกล่าว และได้หลบหนีไปจากโรงพยาบาลแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ร้อยเวรสอบสวนได้ไปถ่ายภาพบันทึกในที่เกิดเหตุบริเวณตู้เอทีเอ็มดังกล่าวอีกครั้ง ปรากฏว่าน.ส.บงกช บัวคลี่ อายุ 49 ปี อาชีพพนักงานบัญชีโรงงานแห่งหนึ่งในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ศรีราชา ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดข้าง ๆ และสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทำตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหายเอง
โดยน.ส.บงกชเปิดเผยว่า เนื่องจากตนเองได้เข้ามากดเงินสดจำนวน 20,000 บาทจากตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ แต่เงินไม่ออกมา สลิปเงินก็ไม่ออกมาด้วย ตนจึงเขย่าตู้ คิดว่าตู้ติดขัด เงินจำนวน 20,000 บาท และสลิปเงินก็ไม่ออกมาอีก ตนจึงไปทดลองเช็คยอดเงินกับตู้เอทีเอ็มธนาคารอื่นที่อยู่ข้าง ๆ กัน ปรากฏว่ายอดเงินถูกหักไปแล้วจำนวน 20,000 บาท
น.ส.บงกช กล่าวว่า ตนจึงย้อนกลับมาที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ ก่อนจะเอามือไปเคาะเบา ๆ บริเวณขอบตู้เอทีเอ็ม เพราะเข้าใจว่าเงินอาจจะติดขัดตรงส่วนไหนของตู้เอทีเอ็ม แต่บังเอิญกรอบตู้เอทีเอ็มก็เกิดหลุดออกมา เนื่องจากเพราะว่าตั้งตากแดดจนขอบตู้กรอบก็เป็นได้ ตนจึงออกไปติดต่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาศรีราชารับทราบ แต่ขณะนั้นธนาคารยังไม่เปิด จึงกลับมาที่บ้าน
ต่อมามีญาติโทรมาแจ้งว่ามีตำรวจและนักข่าวมาที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าตึกอุบัติเหตุโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จึงได้รีบเดินทางออกมาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ขณะนี้ตนได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารไทยพาณิชย์สาขาศรีราชาแล้ว
ธนาคารได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเงินในตู้เอทีเอ็มที่ตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาล และพบว่าเงินในตู้ยังอยู่ครบ และตรงตามที่ตนได้แจ้งไว้ ทางธนาคารไทยพาณิชย์จึงได้นำเงินจำนวน 20,000 ใส่ลงในบัญชีตนเองให้แล้ว โดยที่ทางธนาคารไม่ได้เอาเรื่องที่ตู้เอทีเอ็มที่ได้รับความเสียหายด้วย