เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2558 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานว่า แพทย์จีนผ่าตัดนำพยาธิยาว 8 เซนติเมตรออกมาจากสมองผู้ป่วยสาววัย 29 หลังเธอปวดหัวมานานถึง 6 ปี เชื่อพยาธิเข้าไปในร่างกายจนขึ้นไปไชสมองของเธอได้ เพราะเธอทานกบเป็นๆ ในสมัยเด็ก
หยิน เหมิง คือชื่อของผู้ป่วยสาวรายนี้ เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองจ้าวหยาง มณฑลหูหนานของจีนมาก่อนหน้านี้แล้วครั้งหนึ่ง หลังจากที่มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง และที่นั่น แพทย์ได้ตรวจสอบสมองของเธอ พบว่ามีอะไรบางอย่างเติบโตอยู่ในสมองของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นแพทย์ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร และไม่รู้ว่าจะเอามันออกมาได้อย่างไร จึงอนุญาตให้เธอกลับบ้านได้
หลังจากนั้น หยิน เหมิง ก็ใช้วิธีทานยาระงับปวดมาโดยตลอด แต่อาการก็ยังไม่หายไป ซ้ำร้ายเธอยังมีอาการชักอยู่เป็นประจำอย่างไม่ทราบสาเหตุด้วย ก่อนที่วันหนึ่ง เธอจะชักและหมดสติไป จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนอีกครั้ง
เมื่อพบว่าผู้ป่วยมีอาการหนัก แพทย์จึงตัดสินใจที่จะผ่าตัดสมองของเธอ แม้ว่าจะมีความเสี่ยงไม่น้อยเลยก็ตาม และในที่สุดก็พบว่าสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ภายในสมองของเธอนั้น คือพยาธิความยาว 8 เซนติเมตรเศษ ๆ ตัวการที่ทำให้เธอมีอาการปวดหัวมาหลายปี
หลังจากการผ่าตัดสิ้นสุดลง โฆษกโรงพยาบาลได้เปิดเผยว่า หยิน เหมิง เป็นโรคสปาร์กาโนซิส (Sparganosis) ซึ่งมีสาเหตุมาจากพยาธิตัวตืดแผลงฤทธิ์ เกาะเป็นปรสิตอยู่ภายในร่างกาย และพยาธิตัวตืดนี้ก็เติบโตอยู่ในตัวเธอมานานหลายปีแล้ว มันทำร้ายระบบประสาทของเธอให้เสียหายกินบริเวณกว้าง คาดว่ามันคงเข้าไปในร่างกายของเธอพร้อมกับกบดิบที่เธอทานเข้าไปตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ โดยเธอบอกว่าตอนนั้นเธอจับกบได้และย่าของเธอก็พาเธอทานกบดิบ ๆ เธอยังจำได้ถึงความรู้สึก”กบกระโดดอยู่ในปาก” ก่อนที่เธอจะกลืนเข้าไปได้อยู่เลย
