ที่มา: Springnews

หลายคนอาจมองว่า ปากีสถานเป็นประเทศน่ากลัว มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ่อยครั้งไม่ควรไปเที่ยว แต่สาวอเมริกันคนนี้เธอไปเที่ยวมาแล้ว ซึ่งก็ทำให้หลายคนยิ่งสงสัยหนักขึ้นไปอีกว่า เธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว แต่ไปเที่ยวในประเทศที่อันตรายอย่างปากีสถานได้อย่างไร โดยเธอมีชื่อว่า “ชาร์ลี กรอสโซ่” เป็นศิลปินและช่างภาพชาวอเมริกันเชื้อสายจีน เธอรักการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ และมักจะไปเที่ยวเองตามลำพัง ตามประสาคนรักอิสระ 

ทั้งนี้ การเดินทางไปท่องเที่ยวคนเดียวตามแบบฉบับของชาร์ลี อาจจะลำบากและอันตรายไปสักหน่อย หากอยู่ที่ปากีสถาน เพราะแม้ว่า ปากีสถานจะเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม ธรรมชาติยังสมบูรณ์ และผู้คนเป็นมิตร แต่เนื่องจากถูกกลุ่มติดอาวุธครอบครองในหลายจุด จึงทำให้ไม่มีความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะคนที่ไม่คุ้นเคยกับประเทศนี้ ถ้ามาเที่ยวที่นี่ครั้งแรกตามลำพังอาจเกิดอันตรายได้

09-97

 

ดังนั้น ชาร์ลีจึงใช้วิธีพาชายหนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่งไปด้วย โดยแกล้งบอกทุกคนว่า เขาเป็นสามีของเธอ ซึ่งทั้งคู่เจอกันครั้งแรกระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องบินที่ฮ่องกง และระหว่างที่นั่งดื่มเบียร์ด้วยกันในฮานอย ประเทศเวียดนาม ก็รู้สึกว่าน่าจะท่องเที่ยวด้วยกันได้ ก็เลยนึกสนุก ชวนกันไปตะลุยปากีสถาน แต่พวกเขาคิดว่า ควรจะแกล้งเป็นสามีภรรยากัน เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ จะบอกใครไม่ได้เลยว่า เป็นคนอเมริกัน เพราะอาจทำให้ชีวิตไม่ปลอดภัย เพราะในปากีสถานมีกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มที่เกลียดชังคนอเมริกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ชาร์ลีนัดพบสามีปลอมของเธออีกครั้งที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน เพื่อเดินทางจากฝั่งตะวันตกของจีน ข้ามเข้าไปยังปากีสถาน โดยระหว่างนั่งเครื่องบินไปโคชการ์ก็เริ่มตระเตรียมเรื่องโกหก มีการสมมติว่า ชายแปลกหน้าคนนี้มาจากลัตเวีย เป็นครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ส่วนตัวเธอเองก็แกล้งบอกใครต่อใครว่า เป็นคนตุรกี ซึ่งมีความเป็นเอเชียอยู่ เธอไม่อยากบอกว่าตัวเองเป็นคนจีน เพราะความสัมพันธ์ระหว่างปากีสถานและจีนไม่ค่อยดีนัก และเธอก็โกหกว่า ทำงานเป็นเลขาให้กับแพทย์ไร้พรมแดน พวกเขาพบรักกันเมื่อ 5 ปี และปัจจุบันอาศัยที่กรุงรีกา ของลัตเวีย แถมยังมีลูกด้วยกัน 1 คน ชื่อ มาร์โค เรียกว่า โกหกกันซะเป็นเรื่องเป็นราวเลยทีเดียว

ระหว่างการท่องเที่ยว พวกเขาเดินทางกันอย่างรีบเร่ง ไม่พักอยู่ในที่ใดที่หนึ่งนานๆ เพราะกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย, การลักพาตัว และการเรียกค่าไถ่ โดยเมื่อเดินทางเข้าถึงปากีสถาน สามีปลอมของเธอก็ถูกหน่วยข่าวกรองปากีสถานเรียกไปสอบถาม เพราะกลัวว่าเขาจะเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอ แต่ก็ผ่านมาได้และเดินทางต่อ ช่วงระหว่างการเดินทาง ก็เปลี่ยนตัวตนไปเรื่อยๆ มีบางครั้ง ที่โกหกว่าเป็นชาวแคนาดา ยกเว้นตอนที่ต้องแสดงหนังสือเดินทางกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งแม้เดินทางด้วยกันในฐานะสามีภรรยา แต่ก็นอนกันคนละห้องทุกคืน มีอยู่ครั้งหนึ่ง พวกเขาอยากจะตั้งแคมป์นอนใต้แสงดาว แต่คนนำทางปฏิเสธ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย แต่สุดท้ายคนนำทางก็ทนคำรบเร้าไม่ไหว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลอดการเดินทาง 2 สัปดาห์ พวกเขาจะรู้สึกหวั่นกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัยและค่อนข้างเครียดที่ต้องคอยโกหก เรื่องสถานะของตัวเอง แต่ก็เดินทางโดยสวัสดิภาพ จนกระทั่งแยกจากกันที่สนามบินเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยปัจจุบัน พวกเขายังส่งข้อความหากันเป็นระยะๆ เพราะการปลอมตัวเป็นสามีภรรยาและร่วมทุกข์ร่วมสุขกันในการท่องเที่ยวสุดระทึกที่ปากีสถาน ทำให้ผูกพันและกลายเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ซึ่งหลังจากเดินทางเสร็จสิ้นแล้ว สาวคนนี้เธอยังแปลกใจตัวเองว่า กล้าเดินทางไปประเทศอันตรายอย่างปากีสถาน พร้อมกับหนุ่มแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันได้อย่างไร

เรื่องน่าสนใจ