เรียกได้ว่าเกิดมาตัวดำปิ๊ดปี๋ หน้าตาขี้เหร่ ฐานะทางบ้านก็ยากจน หนำซ้ำยังเคยโดนหลอกให้ไปเป็นพริตตี้ แต่สุดท้ายกลับต้องไปยืนแจกใบปลิวให้คนตะโกนด่าใส่หน้า แถมยังโดนพวกพริตตี้ หน้าเฟก นมปลอม ซุบซิบนินทามองด้วยหางตาแบบเหยียดหยาม
ดังนั้นจึงทำให้สาวใต้เมืองนครศรีธรรมราช เชอรี่ ณัฐธิดา จันทร์สุด ต้องวิ่งโร่ไปนอนกัดฟันทำศัลยกรรมให้สวยเฟร่อ พร้อมกลับมาเหยียบหน้าพวกพริตตี้เหล่านั้น แต่การไปทำศัลยกรรมของเธอ กลับไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
เพราะกว่าจะได้หน้าสวยเป๊ะลงตัว เธอต้องยอมนอนเจ็บหนังหน้า ช้ำเลือดช้ำหนองเป็นสิบๆ รอบ แต่ความเจ็บก็แลกมากับการที่เธอได้ขึ้นแท่นเป็นเอ็มซีตัวแม่ในพื้นที่ภาคใต้ ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เชอรี่ ณัฐธิดา
ล่าสุดเธอก็ทำหน้าที่เป็นเอ็มซีสัมภาษณ์ซุปตาร์ตัวแม่ อั้ม พัชราภา ในคลิปที่กำลังโดนแชร์มากที่สุดในโลกโซเชียล กับงานฉลองครอบรอบ 2 ปี ของร้านเสื้อผ้ากะเทยนามว่า โจม ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จนหลายๆ คนเม้าท์มอยว่า สาวเชอรี่อาจจะเป็นคนสนิทของกะเทยโจม
“ว๊าย! เรื่องนี้เชอรี่ไม่ขอคอมเม้นต์นะคะ เอาเป็นว่าตัวเชอรี่รู้จักกับพี่โจมมานานแล้ว วันนั้นพี่โจมเขาก็ชวนเชอรี่ให้ไปเป็นพิธีกรในงาน พอรู้ว่างานนี้จะได้สัมภาษณ์ พี่อั้ม พัชราภา ก็ดีใจมาก
เพราะส่วนตัวชอบพี่อั้มอยู่แล้ว มีดาราคนอื่นๆ ด้วย พี่เนย พี่เมย์ พี่กระแต พี่ไอซ์ แล้วทุกคนสวยมากๆ ไม่กล้ายืนใกล้เลย คือครั้งหนึ่งในชีวิตของเชอรี่ ได้สัมภาษณ์ดาราดังๆ ขนาดนี้ เชอรี่ก็ดีใจมากแล้ว
แต่เรื่องอื่นเชอรี่ไม่ขอพูดถึงดีกว่า แต่ก็ติดตามข่าวที่เกิดขึ้น เชอรี่ก็อยากให้ทุกๆ อย่างมันผ่านไปได้ด้วยดีกับทุกๆ ฝ่าย ส่วนงานหลักๆ ของเชอรี่ ก็ทำงานอยู่ที่ภาคใต้นี่ละคะ เชอรี่เกิดที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเลย เป็นสาวใต้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เคยทำงานเป็นเอ็มซีพิธีกรตามงานต่างๆ
ตัวเชอรี่ตะลอนไปมาหมดแล้ว แทบจะทุกจังหวัดในภาคใต้ เชอรี่ชอบงานเอ็มซี ( พิธีกร ) ชอบพูด ชอบคุย สนุกดีค่ะ แต่กว่าจะได้มาเป็นเอ็มซี เชอรี่ก็เคยเป็นพริตตี้มาก่อนนะคะ แต่เป็นพริตตี้ภูธรตัวดำๆ ยืนแจกใบปลิวให้คนเขาตะโกนใส่หน้า
ตอนเด็กๆ ฐานะทางบ้านเชอรี่ยากจนมาก พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็กๆ แล้วตัวเชอรี่ก็จะอยู่กับยายมาตลอด ยายจะเข็นรถไปขายน้ำอัดลมที่หน้าโรงเรียน แบบเทขายแก้วละ 5 บาท เลิกเรียนเชอรี่ก็ไปช่วยยายขาย ถามว่าอายไหม เชอรี่ไม่อายนะ แต่เพื่อนๆ ก็ชอบมาล้อ เหมือนเด็กๆ ที่ชอบล้อชื่อพ่อชื่อแม่ แล้วยายก็ต้องดูแลหลานๆ อีก 3 คน
รายได้จากการขายน้ำอัดลมยังไงมันก็ไม่พอ แล้วช่วงปิดเทอมตอน ม.3 เชอรี่ก็ไปรับจ้างล้างจาน ได้เดือน 2-3 พัน เคยทำจานแตกชุดใหญ่ จนเหลือเงินเดือนไม่กี่ร้อย บางครั้งก็ไปถอนหงอกให้คนแก่แถวๆ บ้าน เก็บขวด ขายกระดาษลัง
พอช่วงใกล้จะจบ ม.6 เรียนต่อมหาวิทยาลับ ก็มีคนมาชวนเชอรี่ไปเป็นพริตตี้ เราก็สงสัยว่าทำไมเขามาชวนเรา ทั้งๆ ที่เชอรี่ ตัวดำ ขี้เหร่มาก พอเขาบอกให้วันละ 500 ก็รีบตกลงทันที
พอไปทำงานวันแรก เชอรี่ก็แต่งหน้าแบบจัดเต็มไปเลย พอไปถึงที่บูธเขาก็มีพริตตี้สวยๆ นมใหญ่ๆ ประจำบูธอยู่แล้ว อยู่ๆ ทีมงานก็สั่งให้เชอรี่ไปยืนแจกใบปลิว
พอไปยืนแจก บางคนก็รับ บางก็ไม่รับ บางคนตะโกนใส่หน้าเชอรี่ว่ารำคาญ แล้วพวกพริตตี้ที่อยู่ในบูธ ก็หัวเราะดังมาก เชอรี่รู้เลยว่าพวกมันต้องนินทาเชอรี่แน่นนอน ตอนนั้นโกรธก็โกรธ อายก็อาย เหมือนโดนหลอกมางาน แล้วมันมีจังหวะที่เชอรี่ได้งานเป็นเอ็มซีพิธีกร
ด้วยความที่เชอรี่เป็นเด็กกิจกรรม กล้าพูด กล้าแสดงออก ตั้งแต่เด็กๆ งานเอ็มซีพิธีกรเลยมาเรื่อยๆ จนได้ไปทั่วภาคใต้ แถมได้เงินเยอะกว่าเป็นพริตตี้อีก
ตอนนั้นเชอรี่ก็พอจะเก็บเงินได้บ้าง ก็รีบไปทำศัลยกรรมเลย จะได้ไปเย้ยพวกพริตตี้ที่เคยเหยียดหยามเรา เพราะเวลาไปทำงานเอ็มซี ก็ยังเจอกันอยู่ แต่กว่าหนังหน้าเชอรี่จะลงตัว เชอรี่ก็แก้แล้วแก้อีก หน้าเบี้ยว คางเบี้ยว จมูกเกือบทะลุ ยอมเจ็บตัวเป็นสิบๆ รอบ นอนช้ำเลือดช้ำหนองเป็นเดือนๆ
จนได้มาทำศัลยกรรมที่กรุงเทพ หมดเงินไปก็เกือบๆ ครึ่งล้าน จนแฟนต้องสั่งให้หยุดทำ เพราะกลัวเชอรี่จะเสพติดศัลยกรรมไปมากกว่านี้
แต่ทุกวันนี้เอาจริงๆ ก็พอใจแล้วนะ คือทำจนเป็นกูรูด้านศัลยกรรมได้เลยนะคะ (หัวเราะ) เพราะเชอรี่ศึกษามาเยอะ ผิดพลาดมาก็เยอะ เรื่องศัลยกรรมทุกวันนี้ มันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่เวลาทำก็ต้องมีลิมิต คือใครอยากสวยชาตินี้ ก็ต้องทำหน้า แต่อยากสวยชาติหน้าต้องทำบุญ (หัวเราะ)
แล้วด้วยความที่เชอรี่เรียนครู ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช เวลาไปรับงานเอ็มซี บางงานเราต้องแต่งตัวมีเซ็กซี่บ้าง ก็โดนเพื่อนๆ บางคนในมหาวิทยาลัย เอาไปนินทาหาว่าเชอรี่ทำงานพ่วงกับการขายตัวไปด้วย มันจะมีพวกที่หมั้นไส้ ไม่ชอบเชอรี่อยู่เยอะมาก
ขนาดคนแถวบ้านเขาเห็นเชอรี่ใส่ชุดสั้นๆ ทำศัลยกรรม ก็ยังเอาเชอรี่ไปนินทาเสียๆ หายๆ หาว่าเชอรี่ 11-ร-ด ออล้อ เป็นเด็กเสี่ยเลี้ยง ยายก็ซีเรียสมาด่าว่าเชอรี่ ให้เชอรี่เลิกทำงานแบบนี้
ตอนนี้ชีวิตเชอรี่เปลี่ยนไปเลย แล้วคำดูถูกต่างๆ นาๆ ที่สะสมมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เด็กยันโต มันหล่อหลอมให้เราแกร่งมาถึงทุกวันนี้ ถามว่าโกรธไหม ก็โกรธนะคะ แต่ก็ไม่ไปอาละวาด ไม่ไปเอาคืน
เพราะคนที่นินทาเชอรี่ทุกวันนี้ เขาก็มีชีวิตที่ลำบาก ไม่เห็นว่าเขาเจริญก้าวหน้าตรงไหน ทุกวันนี้ คนในครอบครัว คนที่เรารักหลายๆ คน ต่างก็มีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่
ชีวิตเราขึ้นอยู่กับเรา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขี้ปากกของคน เชอรี่เชื่อว่าถ้าคนเราขยัน อดทน กตัญญู ไม่น้อยต่ำใจในชีวิต ไม่มีทางที่จะลำบากแน่นอนค่ะ
