ทำเอาหลายคนถึงกับงงกันไป หลังจากเว็บไซต์ The Momentum สื่อออนไลน์น้องใหม่มาแรง ประกาศผ่านหน้าเพจเฟซบุ๊กว่า ทีมงานขอตัดสินใจลาออกยกทีม โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้เป็นต้นไป และหลังจาก 31 มีนาคม คอนเทนต์ใดๆบนเว็บไซต์จะไม่ได้มาจากทีมงานเดิมอีกต่อไป โดยบนเว็บไซต์ของ The Momentum มี “บทบรรณาธิการสุดท้าย” ระบุว่า
ถึง คุณผู้อ่านที่รัก
บทความที่คุณกำลังอ่านอยู่นี้คือบทความสุดท้ายของผมในฐานะบรรณาธิการบริหาร The Momentum บทบรรณาธิการแรกของผมถูกโพสต์ในเว็บไซต์ The Momentum วันที่ 10 ตุลาคม 2559 ถือเป็นคอนเทนต์ลำดับที่ 1 ที่แนะนำตัวกับคุณผู้อ่าน ไม่น่าเชื่อว่าผ่านไปไม่กี่เดือน ผมต้องมาเขียนบทบรรณาธิการอำลา
ว่ากันอย่างรวบรัด, ผมและทีมงานทุกชีวิตตัดสินใจลาออกจาก The Momentum แล้ว โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป นั่นหมายความว่า หลังจากวันที่ 31 มีนาคม ทุกคอนเทนต์ทั้งบทความที่คุณได้อ่าน วิดีโอที่คุณได้ดู หรือพอดแคสต์ที่คุณได้ฟัง จะไม่ได้มาจากทีมงานของผมอีกต่อไป นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของผม จะไม่ให้ลำบากใจได้อย่างไร กับการลาจากในสิ่งที่คุณสร้างมากับมือ ปั้นตั้งแต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ทุ่มพลังงานทั้งชีวิต เทจิตวิญญาณทั้งหัวใจ ใส่ประสบการณ์ ความคิดความอ่าน ความตั้งใจ ความมุ่งหวัง และอุดมการณ์ลงไป
ด้วยความสัตย์จริง ผมทำ The Momentum ไม่ใช่เพื่อตัวผมเองหรือเพื่อตัวองค์กร ผมแค่มีความฝันและความเชื่อที่ว่า คนไทยบนโลกออนไลน์ยังคงต้องการเสพข่าวสร้างสรรค์ มีสาระ ไม่เอียง ไม่แคบ ไม่ดราม่า เปิดกว้างทุกความคิดเห็น มุ่งสร้างความเข้าใจ และเสนอทางออกให้สังคม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังสนุก เข้าถึงง่าย และใกล้ตัว เราอยากทำหน้าที่เป็นสื่อมวลชนที่ดี เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโมเมนตัมให้กับสังคม และเป็นเชื้อเพลิงหนึ่งในการจุดคบเพลิงทางปัญญา 6 เดือนที่ The Momentum ปรากฏตัวสู่สายตาสาธารณชน เป็นช่วงเวลาที่วิเศษสำหรับผมและทีมงานมาก พวกเราได้รับทั้งคำชมและคำติ ดอกไม้และก้อนอิฐ เสียงสรรเสริญเยินยอและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ มีผู้ใหญ่หลายคนในวงการสื่อส่งข้อความมาหาผมส่วนตัว บ้างก็ชื่นชมว่า “ทำได้ดีเลยนะ” บ้างก็ตักเตือน “ต้องระวังเรื่องจรรยาบรรณสื่อด้วยสิ” แต่โดยภาพรวมทั้งหมด ผมคิดว่าประสบการณ์ในการทำ The Momentum เป็นบทเรียนอันล้ำค่าที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน
ผมยังจำวันที่ต้องรีบเปิดเว็บไซต์ก่อนกำหนด เพราะเหตุการณ์ โจชัว หว่อง ได้เป็นอย่างดี ภาพของการลงพื้นที่สนามหลวงเพื่อรายงานบรรยากาศการเคลื่อนขบวนพระบรมศพ ก็ยังแจ่มชัด หรือความรู้สึกช็อกตอนทำเฟซบุ๊กไลฟ์การเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาก็ยังไม่จางหาย ในลิ้นชักความทรงจำยังมีอีกหลายโมเมนต์ที่นึกถึงเมื่อไรก็อมยิ้ม หัวเราะ ไปจนถึงอยากเขกหัวตัวเอง
สำเร็จบ้าง ผิดพลาดบ้าง หกล้มบ้าง ก็เป็นธรรมดาของมนุษย์ แต่ทุกบาดแผลล้วนแล้วแต่มีคุณค่า ทุกรอยถลอกล้วนแล้วแต่มีความหมาย ถามว่าเสียดายไหม ก็คงต้องตอบว่าเสียดายมาก ทุกสิ่งที่เราบ่มเพาะกันมากำลังเริ่มผลิดอกออกผล แบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ผู้อ่านให้ความไว้วางใจ และผู้สนับสนุนจำนวนมากก็อยากจะมาร่วมงานด้วย
เสียดาย ใจหาย อาลัย แต่ไม่เสียใจ เหตุผลหลักที่ผมตัดสินใจลาออกนั้นมาจากทัศนคติที่ไม่ตรงกับผู้บริหาร ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก และไม่ได้มีดราม่าแต่อย่างใด ทุกอย่างจบลงด้วยดี ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงานตามความเชื่อของตัวเอง สำหรับคำถามที่ว่า The Momentum จะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต ผมคงไม่สามารถตอบแทนได้ เพราะการตัดสินใจทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับผู้บริหารบริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด แต่ที่ผมตอบได้อย่างแน่นอนก็คือ อนาคตของตัวผมเองและทีมงานของ The Momentum รวมถึงคอลัมนิสต์ และผู้จัดพอดแคสต์ทุกท่าน พวกเราตัดสินใจไปเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ ด้วยกัน แพสชัน ความฝัน และความเชื่อยังคงมีอยู่ เผลอๆ น่าจะใหญ่ขึ้นด้วยซ้ำ แต่รายละเอียดจะเป็นอย่างไร รายการพอดแคสต์ที่คุณชื่นชอบจะออกมาในรูปแบบไหน หรือคอลัมนิสต์ที่คุณติดตามยังจะเขียนในรูปแบบเดิมหรือไม่ คงต้องรอติดตามครับ ช่วงต้นเดือนมิถุนายนคงได้เห็นกัน ส่วนตัวผมคาดหวังลึกๆ ว่า สิ่งที่พวกเรากำลังปลุกปั้นน่าจะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับวงการสื่อสารมวลชนไทยได้ไม่มากก็น้อย
ท้ายที่สุดนี้ ผมขอเป็นตัวแทนทีมงาน The Momentum ในการกล่าวคำว่า “ขอบคุณ” อย่างเป็นทางการ ทุกเสียงตอบรับของคุณมีความหมายกับพวกเรามากจริงๆ ขอบคุณที่ติดตามกันมาตั้งแต่เริ่มต้น ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่มอบให้ตลอดมา ไม่มีคนอ่าน ก็ไม่มีนักเขียน ไม่มีคุณ ก็ไม่มีพวกเรา ขอบคุณที่ร่วมสร้างโมเมนตัมด้วยกันมา แล้วพบกันใหม่ครับ
นครินทร์ วนกิจไพบูลย์
บรรณาธิการบริหาร The Momentum
โดยบรรดาแฟนคลับต่างเข้าไปแสดงความเสียใจต่อการประกาศดังกล่าวของทีมงาน ขณะที่บางคนตั้งข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้ลาออกกันยกทีม แต่ยังไม่มีคำชี้แจงใดๆออกมาจากทาง The Momentum มีเพียงแถลงการณ์ที่ออกมาดังกล่าว แต่มีข่าวลือออกมาว่า อาจจะมีการออกไปตั้งหัวใหม่