ผ่านเหตุระเบิดที่ราชประสงค์มาได้ 4 วัน สิ่งหนึ่งที่คนไทยกังวลพอๆกับการสืบสวนหาผู้ก่อเหตุ ก็คือผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นความหวังหนึ่งเดียวที่จะพยุงเศรษฐกิจอันซบเซาของไทยเอาไว้ได้ ในขณะที่รัฐบาลหลายประเทศ ทั้งจีน สหรัฐฯ และอียู เตือนให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังการเดินทางมาไทย สื่ออังกฤษกลับประเมินว่าไทยยังคงปลอดภัยสำหรับการเดินทาง
The Independent หนังสือพิมพ์ชื่อดังของอังกฤษ ประเมินว่าขณะนี้มีนักท่องเที่ยวอังกฤษในไทยอยู่ประมาณ 30,000 คน ถือว่าไม่มากนัก เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น โดยทาง The Independent รายงานว่านอกจากพื้นที่ใกล้ที่เกิดเหตุ ทุกอย่างยังคงดำเนินไปอย่างค่อนข้างปกติ
หากจะมีสิ่งที่ไม่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว ก็ไม่ใช่การก่อการร้าย แต่เป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยของรัฐบาลไทยมากกว่า เนื่องจากนักท่องเที่ยวจะต้องถูกตรวจค้นอย่างเข้มงวดในสนามบิน สถานีรถไฟ และสถานีรถโดยสาร รวมถึงสถานที่สำคัญๆในเมืองท่องเที่ยว อย่างภูเก็ตและเชียงใหม่
อย่างไรก็ตาม The Independent แนะนำว่าประเทศไทยยังคงปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยว เพราะอันที่จริงสถานการณ์ความไม่สงบก็มีมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2004 รัฐบาลอังกฤษได้เตือนไม่ให้พลเมืองเดินทางไปยังจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยไม่จำเป็น แต่นักท่องเที่ยวก็รู้กันดีว่านอกจากพื้นที่อันตราย ส่วนอื่นๆของไทยก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตามปกติ
ขณะที่ HolidayTravelWatch หน่วยงานด้านการเตือนภัยและให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว กลับออกมาเตือนว่ามี 5 ประเทศที่ไม่ปลอดภัยเท่าที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่คิด แต่บรรดาเอเจนซีมักกล่อมให้นักท่องเที่ยวเชื่อว่าประเทศเหล่านี้สามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติ โดย 5 ประเทศที่ว่านี้ก็คืออียิปต์ ตูนิเซีย เคนยา ตุรกี และไทย
โดยทางหน่วยงานให้เหตุผลว่าไทยไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองมาหลายปีแล้ว และการมีรัฐบาลที่ขาดเสถียรภาพ ทำให้เสี่ยงต่อการก่อวินาศกรรมโดยกลุ่มที่หวังจะโค่นล้มรัฐบาล และกลุ่มเหล่านี้ก็มักพุ่งเป้าที่นักท่องเที่ยว เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากกว่า และจะสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับรัฐบาลได้มาก
นอกจากนี้ HolidayTravelWatch ยังเตือนอีกด้วยว่าเมืองทางใต้ของไทยก็เสี่ยงต่อการก่อการร้ายเช่นกัน โดยเฉพาะภูเก็ต ที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯไม่มากนัก หากเกิดระเบิดที่กรุงเทพฯได้ ก็ย่อมเกิดที่ภูเก็ตได้เช่นกัน