สื่อนอกหลายสำนัก กำลังให้ความสนใจและตั้งคำถามไปในทิศทางเดียวกันว่า “ประเทศไทยการกด LIKE หรือแสดงความคิดเห็นข้อความที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย จะมีความผิดร่วมด้วย อาจทำให้ถูกจำคุกนานถึง 32 ปี”
สื่อต่างประเทศหลายสำนัก ตีแผ่รายงาน กรณีที่มีกระแสข่าวว่า ทางการไทยได้ควบคุมตัวนายฐนกร ศิริไพบูลย์ พนักงานบริษัทผลิตรถยนต์แห่งหนึ่ง หลังจากเขาได้โพสต์ภาพแผนผัง ชี้แจงเครือข่ายการทุจริตในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ลงไปในเฟซบุ๊ก เรียกได้ว่าเป็นข่าวของไทย ที่ได้รับความสนใจจากสื่อนอกในช่วงเวลานี้
สื่อต่างชาติที่เสนอข่าวดังกล่าว ประกอบไปด้วยสำนักข่าวหลายสำนักด้วยกัน อาทิเช่น เดอะการ์เดียนของสหรัฐฯ , เดอะมิเรอร์ของสหราชอาณาจักร และ NDTV ของอินเดีย
โดยหลังจากมี พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ได้ระบุว่า ผู้ใดกดถูกใจ หรือร่วมแสดงความคิดเห็น ในเพจเฟซบุ๊ก หรือในข้อความที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย จะมีความผิดร่วมด้วย แม้จะยกเลิกการเป็นสมาชิกของหน้าเพจเฟซบุ๊กนั้นแล้วก็ตาม ก็ทำให้บรรดาสื่อนอกเหล่านี้ ตั้งคำถามไปในทิศทางเดียวกันว่า “ในประเทศไทย การกดไลค์รูปในเฟซบุ๊กผิด อาจทำให้ถูกจำคุกนานถึง 32 ปี”
ด้านนายบุญญรักษ์ บุญญาธิการ หัวหน้าเรือนจำชั่วคราว มณฑลทหารบกที่ 11 เข้าแจ้งความต่อเจ้าพนักงาน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเว็บไซต์ประชาไท ฐานหมิ่นประมาท ด้วยการนำเอาข้อความลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์
จากกรณีที่กล่าวหาว่าได้รับตัวนายฐนกร ศิริไพบูลย์ ผู้ต้องหาในความผิดตามมาตรา 112 จากการแชร์ข้อมูลแผนผังทุจริตอุทยานราชภักดิ์ เข้าไปคุมขังในเรือนจำ มทบ.11 เป็นเวลา 1 คืน และต่อมาได้มีการนำตัวออกไปจากเรือนจำโดยไม่รู้ที่หมาย
โดยนายบุญญรักษ์ ยืนยันว่า การควบคุมตัวบุคคลต่างๆ ต้องเป็นไปตามระเบียบ พร้อมย้ำว่า ไม่เคยกล่าวกับทนายความหรือสื่อมวลชน ว่า มีการควบคุมตัวนายฐนพรเลย แต่กลับมีการไปนำเสนอเช่นนั้น ทำให้ได้รับความเสียหาย
