เว็บไซต์ข่าวอังกฤษ “เดลิเมล” รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ว่า นางสาวแอมริตา จัวร์เร วัย 27 ปี ชาวอังกฤษซึ่งเดินทางโดยสารไปกับเที่ยวบินที่ 9 ดับเบิ้ลยู 122 ของสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ จากเมืองเดลีของอินเดีย มุ่งหน้ามายังกรุงลอนดอนของอังกฤษ ออกมาเปิดเผยว่า เธอและผู้โดยสารคนอื่นที่อยู่บนเที่ยวบินดังกล่าว ต้องใช้ผ้าพันคอหรือผ้าอื่นๆ ปิดปากปิดจมูก สู้ทนกับกลิ่นของเหลวที่รั่วซึมออกมาจากห้องสุขาของเครื่องบิน ไหลมาตามทางเดินจนทั่วห้องโดยสารเป็นเวลาถึง 6 ชั่วโมง จากช่วงเวลาการเดินทางทั้งหมด 8 ชั่วโมง
นางสาวจัวร์เร ทนไม่ได้จึงถ่ายรูปภาพขณะเกิดเหตุไว้ โดยพนักงานต้อนรับที่อยู่บนเครื่องแก้ไขปัญหาโดยการนำกระดาษหนังสือพิมพ์มาโปะ ไปบนทางเดินเพื่อซับของเหลวดังกล่าว ที่พวกเขาอ้างว่า เป็นเพียงของเหลวที่รั่วออกมาจากอ่างล้างหน้าของห้องสุขาทั้ง 2 ห้องบนเครื่องบินเท่านั้น ไม่ได้รั่วออกมาจากคอห่านแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นางจัวร์เรไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด เนื่องจากของเหลวนำเอากลิ่นปัสสาวะเหม็นฉุนรุนแรงออกมาด้วย จากนั้นพนักงานได้นำสเปรย์ดับกลิ่นมาพ่นเพื่อดับกลิ่นในห้องโดยสาร แต่เนื่องจากมีผู้ป่วยโรคหืดที่แพ้กลิ่นน้ำหอม วิธีนี้จึงต้องถูกยกเลิกไป ผู้โดยสารบนเครื่องเริ่มบ่นมากขึ้นถึงกลิ่นและของเหลวไม่พึงประสงค์ ส่วนตัวนางจัวร์เรเองก็เริ่มมีอาการปวดศีรษะและคลื่นไส้
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนก.พ.ที่ผ่านมา โดยสายการบินพยายามที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้โดยสารเป็นคะแนนสะสมการเดินทาง 2,000 แต้มให้ แต่นางสาวจัวร์เรกล่าวว่า มันไม่เพียงพอ อย่างแน่นอนกับสภาพที่เธอต้องทนรับเป็นเวลา 6 ชั่วโมง จนเมื่อเธอเดินทางมาถึงกรุงลอนดอน เธอต้องใช้เวลากว่า 1 สัปดาห์ในการปรับสภาพร่างก่ายให้เป็นปกติ
