ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

แท็กซี่ส่วนบุคคล ขับแหกด่านตรวจตำรวจวังทองหลางกลางดึก ตร.ต้องไล่ยิงยางล้อก่อนปีนไปสิ้นฤทธิ์บนฟุตปาท สุดช็อก! คนขับ เมาทั้งเบียร์ กัญชา ตรวจปริมาณแอลกอฮอล์มีกว่า 180 มก. สารภาพขับออกตระเวนหาผู้โดยสาร เจอด่านกลัวถูกจับเลยขับหนี

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 14 พ.ค.58 ขณะที่ ร.ต.ท.อวยชัย ศรีสงค์ รอง สวป.สน.วังทองหลาง ปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจเคลื่อนที่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.วังทองหลาง บริเวณกลางซอยลาดพร้าว 112 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.

พบรถแท็กซี่ส่วนบุคคลมีท่าทีพิรุธ จึงเรียกตรวจค้น โดยแท็กซี่คันดังกล่าวได้ขับชะลอก่อนจะเข้าจุดตรวจ ก่อนเร่งเครื่องด้วยความเร็ว เป็นเหตุให้ ด.ต.อภิเชษฐ์ การกัน ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.วังทองหลาง ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหัวเข่าด้านขวาบวม โดยหลบหนีไปทางถนนลาดพร้าว ทางตำรวจได้วิทยุสกัดจับคนร้าย

NjpUs24nCQKx5e1DISyyiPSbCTQvvUqcdD4YIgfzgfx

ต่อมา พ.ต.ท.เชน ศรีกรุงไกร สวป.สน.วังทองหลาง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ขับรถกระบะสายตรวจไล่ติดตามรถแท็กซี่คันดังกล่าว โดยขับรถปาดหน้ารถแท็กซี่บริเวณถนนทาวน์อินทาวน์ เพื่อจับกุม

ก่อนรถแท็กซี่เสียหลักปีนฟุตปาท ทำให้ล้อรถด้านหลังฝั่งขวายางแตก และเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนยิงใส่ล้อรถ สกัดจับตัวได้บริเวณถนนเลียบด่วนรามอินทรา ก่อนถึงแยกประชาธรรม

NjpUs24nCQKx5e1DISyyiPSbCTQvvUokoZfFaX2JCyz

ทราบชื่อคนขับ คือ นายเอกลักษณ์ เกษเดช อายุ 33 ปี อยู่ในอาการมึนเมา จากการตรวจค้นภายในรถ พบกัญชาบรรจุห่อพลาสติกขนาดเล็ก 1 ห่อ บริเวณลิ้นชักข้างประตูฝั่งคนขับ ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สน.วังทองหลาง

โดยผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ดื่มเบียร์และเสพกัญชามาจากบ้านที่ย่านพญาไทแล้วขับรถออกมาตระเวนหาผู้ โดยสาร บริเวณถนนรามคำแหง 53 เมื่อมาถึงกลางซอย พบจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลัวว่าจะถูกจับกุม จึงตัดสินใจขับรถหลบหนี

ทั้งนี้ จากการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ พบว่ามีปริมาณ 181 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงนำตัวส่งตรวจสารเสพติดที่ รพ. ก่อนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากคนขับแท็กซี่ยังอยู่ในอาการมึนเมา เบื้องต้นแจ้งข้อหาเมาแล้วขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ฝ่าฝืน คำสั่งเจ้าพนักงานและข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 กัญชา โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาอื่นๆ ต้องรอทางตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

เรื่องน่าสนใจ