ทันตแพทย์โพสต์เฟซบุ๊ก อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดลหนีทุนไม่กลับประเทศ อ้างรับไม่ได้ระบบทุนเอาเปรียบ จนเจ้าตัวต้องใช้หนี้ค้ำประกันร่วม 2 ล้าน ส่วนอดีตอาจารย์คนดังกล่าวบอก ตอนนี้กำลังลำบากแต่จะพยายามหาเงินมาคืนให้
เมื่อประมาณวัน19 ม.ค. 59 ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของทันตแพทย์เผด็จ ได้โพสต์ข้อความแสดงความอัดอั้นพร้อมขอความเป็นธรรมกับการต้องรับภาระชำระหนี้ที่ตัวเองเป็นผู้เซ็นค้ำประกันให้กับอาจารย์สาวมหาวิทยาลัยมหิดลร่วม 2 ล้านบาท เพื่อให้อาจารย์สาวได้เดินทางไปศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ประเทศสหรัฐฯ แต่เมื่อศึกษาจบอาจารย์สาวท่านนี้กลับไม่เดินทางกลับประเทศ
“สิ้นสุดสักทีกับกรรมเก่า ผมได้ชดใช้ให้แล้ว รวมยอดกับที่ต้องชำระให้อีกร่วมล้าน กับการค้ำประกัน นางสาว ….อดีต อาจารย์ภาควิชาทันตกรรมสำหรับเด็ก คณะทันตแพทย์ ม.มหิดล ผู้ซึ่งรับทุนศึกษาต่อที่อเมริกา โดยมีผมซึ่งเข้ามาเรียนที่มหิดลในฐานะคนรู้จัก แต่ด้วยความที่เห็นแก่คณะและวิชาชีพจึงยอมค้ำประกันร่วมกับ อาจารย์และเพื่อนร่วมงานและเพื่อนอีกคนของ นางสาว…. หวังว่าเค้าจะกลับมาทำประโยชน์แก่ส่วนรวม
แต่สิ่งที่ผมและทุกคนได้รับคือบอกว่าไม่มีเงิน ทั้งๆที่เค้าทำงานเป็นนักวิจัยที่ ม.ฮาร์วาร์ด รับเงินเดือนสูง อยู่อพาร์เม้นท์หรูหราในอเมริกา
เค้าทำได้แม้อาจารย์ผู้สั่งสอนและสนับสนุนให้เค้าได้เรียน ผู้ร่วมงาน เพื่อน อย่างไม่ละอายแก่ใจ พ่อของเค้าและญาติพี่น้องก็ไม่สนใจ เค้าเคยโทรหาผมแค่ครั้งเดียวว่าจะไม่ทำให้ผมเดือดร้อน ผมยังต้องส่งเสียลูกอีก4คน แต่ผมต้องนำเงินมาชำระแทนเค้า เลยขอให้เรื่องนี้เตือนสติแก่ผู้ที่จะค้ำประกันใคร การศึกษาและชาติตระกูลไม่ได้ช่วยอะไร
เค้าวางแผนล่วงหน้าแล้วให้พ่อเค้ารับผิดชอบน้อยที่สุดและมาชดใช้ให้หมดแต่ไม่ยอมชดใช้ให้คนอื่น ช่วยแชร์กันนะครับ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ และผู้ที่จะทำธุรกรรมกับคนในครอบครัวนี้หรือบุคคลอื่น แม้ท่านจะปรารถนาดีก็ตาม”
ซึ่งต่อมาทันตแพทย์รายนี้ได้โพสต์ข้อความว่า “ทางเราตั้งทนายไปถาม ….และ Harvard ผลที่ได้คือ ….ตั้งทนายสู้ ไม่ให้ไปยุ่งด้วย แถมขู่ทนายเราด้วย Harvard ก็บอกเป็นเรื่องส่วนตัว รบกวนผู้รู้ช่วยด้วยครับ”
ด้านทางมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดก็ส่งจดหมายตอบกลับมาในทำนองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัว ทางมหาวิทยาลัยไม่สามารถดำเนินการใดๆได้
ส่วนทางอดีตอาจารย์สาว ที่ขณะนี้มีผู้สืบทราบว่ามาหลังเรียนจบแล้วก็แต่งงานกับหนุ่มชาวอเมริกัน จดทะเบียนเปลี่ยนสัญชาติ มีลูกด้วยกัน 1 คน โดยอดีตอาจารย์ได้ส่งข้อความกลับมายังทันตแพทย์เผด็จว่า ขณะนี้เธอกำลังลำบากไม่มีเงินเช่นเดียวกัน แต่จะพยายามหามาใช้คืนให้ภายหลัง ให้ทางฝั่งทันตแพทย์เผด็จชดใช้ไปก่อน
ส่วนสำนักข่าวอิศราได้สืบค้นข้อมูลประวัติเบื้องต้นของอดีตอาจารย์สาวท่านนี้ได้ความว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2536
เริ่มต้นมาจาก อดีตอาจารย์สาวรายนี้ ขอทุนคณะไปเรียนต่อที่ฮาวาร์ด ป.โท แต่ต้องหาคนค้ำประกัน จึงไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อน อาจารย์ รุ่นพี่ ให้มาช่วยค้ำประกันให้
หลังจากนั้น ทันตแพทย์หญิงรายนี้ ก็ไปขยายทุนเป็น ป.เอก และหลังเรียน ป.เอก จบแล้ว ก็แต่งงานกับหนุ่มอเมริกัน จดทะเบียนเปลี่ยนสัญชาติ และไม่กลับมาใช้ทุน
จำนวนทุนที่ใช้ไปอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท ตามสัญญาต้องชดใช้ 3 เท่าคือ 30 ล้านบาท หลังจากเกิดปัญหาทางฝ่ายผู้ค้ำประกันได้พยายามต่อสู้ จนกระทั่งหาข้อยุติให้ชดใช้เท่ากับเงินทุนที่ส่งให้ประมาณ 10 ล้านบาท โดยหารกัน 3 คน การต่อสู้ยืดเยื้อและบานปลายมาตลอด เพราะทุนคิดเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีช่วงเปลี่ยนแปลงค่าเงินอีกทำให้เงินที่ชดใช้ต้องเพิ่มขึ้น
ล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่า เฟซบุ๊กของทันตแพทย์ผู้โพสต์ข้อมูลทั้งหมดนี้หายไปจากการค้นหารายชื่อในเฟซบุ๊กเรียบร้อยแล้ว
Source : สำนักข่าวอิศรา