คนขับแท็กซี่จีนเปิดคอลเลคชั่น ถ่ายเซลฟี่กับผู้โดยสาร 30,000 ภาพ จนทำลายสถิติโลก เรียกรอยยิ้มและความอบอุ่นให้ให้ทั่วโซเชียล
วันที่ 23 เมษายน 2558 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อีสท์ มีรายงานว่า นายเถิงเจียจื่อ คนขับแท็กซี่จากเมืองเสินหยาง ประเทศจีน ได้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ที่มอบความสุขให้แก่ชาวเน็ตจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากที่เขาได้เผยคอลเลคชั่นภาพถ่ายเซลฟี่ที่แสนน่ารักร่วม 30,000 ภาพลงในเว่ยป๋อ สื่อโซเชียลยอดนิยมของจีน
สำหรับคอกเลคชั่นภาพเซลฟี่ดังกล่าว เป็นภาพที่ลุงเถิงได้ถ่ายไว้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โดยเขาเผยว่าเซลฟี่ภาพแรกของเขาเป็นสิ่งที่น่าจดจำมากที่สุด มันถูกถ่ายขึ้นในวันที่หนาวเหน็บ ขณะเขารับผู้โดยสาร 2 คนที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างถนนในมณฑลเหลียวหนิงเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งคู่รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมากจึงเสนอจะมอบเงินเพิ่มเป็นพิเศษให้เขา แต่ลุงเถิงปฏิเสธไม่รับ ทั้งคู่จึงได้ขอถ่ายเซลฟี่กับลุงเถิงเป็นที่ระลึกแทน
เหตุการณ์ในวันนั้นสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ลุงเถิง ต่อมาในปี 2554 เขาจึงได้นำกล้องมาติดไว้ที่รถเพื่อถ่ายภาพร่วมกับผู้โดยสารและช่วยสร้างสีสันให้แก่วันของพวกเขา เฉลี่ยในแต่ละวันลุงเถิงจะรับผู้โดยสาร 80 เที่ยว โดยมีถึง 20 เที่ยวที่ผู้โดยสารยอมถ่ายเซลฟี่ด้วย กระทั่งเมื่อ 4 ปีผ่านมา เขาก็สามารถรวมรวมคอลเลคชั่นเซลฟี่ที่เต็มที่ด้วยรอยยิ้มกับผู้โดยสารนับพันคน ได้ถึง 30,000 ภาพ
ในเวลาต่อมา ลุงเถิงก็ได้นำภาพชุดดังกล่าวมาโพสต์ลงในเว่ยป๋อของเขา ภาพชุดนี้ได้รับความสนใจอย่างมากและมีคนเข้ามาติดตามลุงเถิงมากกว่าแสนคน และภาพดังกล่าวก็ได้กลายมาเป็นแหล่งพลังงานด้านบวกที่บริสุทธิ์ให้แก่ชาวเน็ต ขณะที่ลุงเถิงยังบรรยายข้อความไว้ใต้ภาพเหล่านี้ด้วยเช่น “รอยยิ้มเป็นภาษาที่ดีที่สุดในโลก”
แน่นอนว่ามันเป็นอะไรที่น่าทึ่ง มอบความสุข และอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมาก ทั้งยังกลายมาเป็นคอลเลคชั่นที่ทำลายสถิติโลก โดยลุงเถิงเพิ่งจะได้รับรางวัลรับรองสถิติภาพเซลฟี่ของเขาในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามลุงเถิงยืนยันว่าเขาไม่ได้หวังจะถ่ายภาพเพื่อทำลายสถิติหรือเพื่อธุรกิจ เพียงแต่พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจะช่วยผู้โดยสารจากปัญหาต่าง ๆ ด้วยการพูดคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ ร้องเพลง หรือเล่าเรื่องตลกให้พวกเขาฟังเท่านั้น
เขายังจำได้ดีถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูค่อนข้างเศร้าขณะขึ้นรถแท็กซี่ของเขา และปฏิเสธไม่ให้เขาถ่ายภาพด้วย “ผมพบว่าเธอเพิ่งจะทะเลาะกับแม่มา ผมจึงร้องเพลงเก่า ๆ ที่เกี่ยวกับความรู้สึกที่แม่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ นอกจากการเป็นห่วงลูกให้เธอฟัง เมื่อผมร้องจบเธอก็เริ่มร้องไห้ และทันใดนั้นก็โทรศัพท์ไปขอโทษแม่ในทันที” ลุงเถิงกล่าว และแน่นอนว่าจากนั้นเธอก็ยอมให้ลุงเถิงถ่ายเซลฟี่ด้วยในที่สุด
