ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

“ซิงเกิ้ลมัม” แม่เลี้ยงเดี่ยววัย 65 เลี้ยงลูกพิการกว่า 40 ปี ไม่เคยคิดทอดทิ้ง เผยสอนลูกยิ้มรับโชคชะตา ขณะที่ลูกชาย บอกวันแม่ปีนี้ คงให้ได้แค่คำว่า “รัก” อยากให้แม่สบายเหมือนคนอื่น …

EyWwB5WU57MYnKOuXuVAvngc9Ap2OE7Byg891ETeeLrrIpMPRzHCEk

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.วัดโคก อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ว่ามี “ซิงเกิ้ลมัม” หรือ แม่เลี้ยงเดี่ยว ที่เลี้ยงลูกพิการตั้งแต่อายุ 2 ขวบ จนขณะนี้มีอายุ 40 ปี โดยไม่คิดจะทอดทิ้ง ซึ่งอาศัยในบ้านเลขที่ 29/2 ม.1 ต.วัดโคก อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เป็นบ้านชั้นเดียวขนาด 2 คูณ 2 เมตร ผนังเป็นไม้ฝาเฌอร่า มุงด้วยสังกะสี พบนางจำรอง ขุนจง อายุ 65 ปี มารดา กำลังป้อนข้าว นายเจริญ บินชัย อายุ 42 ปี บุตรชาย ที่พิการแขนขาลีบ ไม่สามารถเดินได้เหมือนคนปกติ อย่างเอ็นดู อิ่มเอม ไปด้วยรอยยิ้ม

นางจำรอง กล่าวว่า ตนอาศัยที่ดินของวัดปลูกบ้านอยู่ที่บริเวณหลังวัดโคก เลี้ยงดูลูกชายด้วยตัวคนเดียวมาตั้งแต่ 42 ปีที่แล้ว โดยตอนที่ลูกชายอายุ 2 ขวบ เกิดตกแคร่ไม้ไผ่ แล้วขาหัก จนพิการ ส่วนแขนข้างขวาก็ลีบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ช่วงที่ยังมีแรง ก็ออกไปรับจ้างทั่วไป ได้เงินนำมาซื้อข้าว และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อดบ้าง มีกินบ้าง ขอแค่มีข้าวให้ลูกกินอิ่มก็เพียงพอ

แต่ช่วงระยะหลังมีอาการปวดขา เดินเหินไม่สะดวก ไม่สามารถออกไปรับจ้างเหมือนที่ผ่านมา ทำให้ไม่มีเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทำให้ต้องไปอาศัยข้าววัดกิน แต่ตนก็ไม่ได้ไปขอเปล่าๆ แลกกับการทำงานล้างจาน ล้างปิ่นโต ส่วนรายได้หลักที่มาจุนเจือครอบครัวตอนนี้ กลับเป็นรายได้ที่ได้จากการรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าของลูกชาย ที่ไปเรียนรู้การซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า จากศูนย์ฝึกอาชีพ ที่ทางหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นมาสอนให้ ประกอบกับความสนใจใฝ่เรียนรู้ที่นายเจริญ ชอบเกี่ยวกับอุปกรณ์ วงจรไฟฟ้า มาตั้งแต่เด็ก จึงเรียนรู้และสามารถซ่อมได้อย่างเขี่ยวชาญ เหมือนคนปกติทั่วไป

“การเลี้ยงดูลูกด้วยตัวคนเดียวมาตลอด 42 ปี ยอมรับว่าเคยเหนื่อยบ้าง เคยท้อแท้บ้าง เคยสงสารลูกบ้าง แต่ก็ไม่เคยคิดทอดทิ้ง พยายามทำหน้าที่แม่อย่างสุดความสามารถ ดูแลประคบประหงม พร้อมสอนลูกชายเสมอว่า เราไม่ได้มีมือเท้า ปกติเหมือนคนอื่น แต่สิ่งที่เรามีเหมือนคนอื่นคือ ชีวิต และหัวใจ เพียงแค่เราไม่เบียดเบียนใคร กินอิ่มบ้าง อดบ้าง นอนหลับได้เต็มตา ก็เพียงพอแล้วสำหรับชีวิตคน

แต่สิ่งที่พร่ำสอนลูกชายอยู่เสมอ คือ รอยยิ้ม เราต้องยิ้ม ต้องมีความสุขไว้ก่อน แล้วความทุกข์กาย ทุกข์ใจ ที่เราคิด หรือผ่านเข้ามาในหัวสมอง จะหายไปเอง อย่างน้อยๆ หากเวลาท้อใจเมื่อไร เพียงแค่เห็นรอยยิ้มของลูก แม่ก็จะคลายทุกข์ คลายกังวลใจ หายเหนื่อยไปทันทีทันใด หากชาติหน้ามีจริงก็ยังขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้ลูก กลับมาเกิดเป็นลูกของแม่อีกครั้ง ส่วนในชาตินี้ก็จะขอเลี้ยงดูจนกว่าจะสิ้นลมหายใจตายจากไป” นางจำรอง กล่าว

ด้านนายเจริญ กล่าวว่า ตอนนี้ตนสามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้ด้วยการซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า แต่ก็มีงานไม่มากนัก อะไรที่ตนทำแล้วได้เงิน ก็อยากจะทำ เพราะแม่ต้องคอยดูแล คอยเป็นห่วง และเหนื่อยกับตนมาเกือบทั้งชีวิต อยากให้แม่ได้อยู่อย่างสบายเหมือนคนอื่นบ้าง ไม่อยากให้แม่เหนื่อยแบบนี้อีกต่อไปแล้ว

“สำหรับวันแม่ในปีนี้ ไม่สามารถให้อะไรแม่ได้นอกจากคำว่า “รัก” และขอบคุณที่แม่รักและดูแลลูกชายที่พิการคนนี้ อย่างไม่เคยทอดทิ้งไปไหน อยู่กันมาด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะมาตลอดทั้ง 40 ปีที่ผ่านมา หากชาติหน้ามีจริงก็จะขอเกิดเป็นลูกแม่ และขอไปชดใช้บุญคุณในชาติหน้า” นายเจริญ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นคลอ

หากผู้ใจบุญท่านใดมีจิตศรัทธา อยากช่วยเหลือ สามารถบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี นางสาวจำรอง ขุนจง หมายเลข 020037138128 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขามโนรมย์

เรื่องน่าสนใจ